ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลักการทรงงาน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 3 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 3: | บรรทัดที่ 3: | ||
<center><h1>หลักการทรงงาน<br>ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว</h1></center> | <center><h1>หลักการทรงงาน<br>ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว</h1></center> | ||
<div class="kindent"> | <div class="kindent">ด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขของพสกนิกรบังเกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายพันโครงการทั่วประเทศ เริ่มจากการเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรปัญหาของราษฎรด้วยพระองค์เอง จึงทรงทราบถึงมูลเหตุแห่งปัญหาอย่างถ่องแท้ จากนั้นจึงมีพระบรมราชวินิจฉัยพระราชทานแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับไปดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการด้านเกษตรกรรม การแพทย์และสาธารณสุข การคมนาคม หรือการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักการทรงงานอันประเสริฐ ดังนี้</div> | ||
=== === | === === | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน01.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน01.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>''' | <h3>'''๑ ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ'''</h3> | ||
<div class="kindent">ให้ศึกษางานที่จะทำให้ดี อย่าผลีผลาม ความรู้จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องขวนขวาย ต้องเก็บบันทึกไว้ แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ "ความรู้" ต้องพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ต้องรู้หมดและรู้อย่างแท้จริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่น การที่จะพระราชทานโครงการใดโครงการหนึ่งจะทรงศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างรอบคอบและครบถ้วน ทั้งจากข้อมูลเบื้องต้น จากเอกสาร แผนที่ สอบถามจากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริง เพื่อที่พระองค์จะได้พระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วตรงตามที่ประชาชนต้องการ ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าเราจะทำอะไรต้องรู้จริง ศึกษาให้เข้าใจ แล้วจึงลงมือปฏิบัติ | <div class="kindent">"ทำงานอย่างผู้รู้จริง" ให้ศึกษางานที่จะทำให้ดี อย่าผลีผลาม ความรู้จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องขวนขวาย ต้องเก็บบันทึกไว้ แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ "ความรู้" ต้องพัฒนาอยู่เรื่อยๆ ต้องรู้หมดและรู้อย่างแท้จริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่น การที่จะพระราชทานโครงการใดโครงการหนึ่งจะทรงศึกษาข้อมูลรายละเอียดอย่างรอบคอบและครบถ้วน ทั้งจากข้อมูลเบื้องต้น จากเอกสาร แผนที่ สอบถามจากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริง เพื่อที่พระองค์จะได้พระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วตรงตามที่ประชาชนต้องการ ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ว่าเราจะทำอะไรต้องรู้จริง ศึกษาให้เข้าใจ แล้วจึงลงมือปฏิบัติ | ||
</div> | </div> | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน02.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน02.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ระเบิดจากข้างใน'''</h3> | <h3>'''๒ ระเบิดจากข้างใน'''</h3> | ||
<div class="kindent">คือการทำสิ่งใดต้องสร้างฐาน ต้องเริ่มจากความพร้อม ความเห็นพ้องต้องกันในกลุ่มเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ก่อ จะมั่นคงถาวร พระองค์ทรงมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาคน ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ต้องระเบิดจากข้างใน" นั้นหมายความว่า ต้องสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนา ให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชน หมู่บ้าน ที่ยังไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว</div> | <div class="kindent">คือการทำสิ่งใดต้องสร้างฐาน ต้องเริ่มจากความพร้อม ความเห็นพ้องต้องกันในกลุ่มเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ก่อ จะมั่นคงถาวร พระองค์ทรงมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาคน ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ต้องระเบิดจากข้างใน" นั้นหมายความว่า ต้องสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชนที่เราเข้าไปพัฒนา ให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชน หมู่บ้าน ที่ยังไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งตัว</div> | ||
บรรทัดที่ 22: | บรรทัดที่ 22: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน03.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน03.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''อดทน มุ่งมั่น'''</h3> | <h3>'''๓ อดทน มุ่งมั่น'''</h3> | ||
<div class="kindent">ให้รู้จักอดทน ทำจนเป็นนิสัย ไม่ว่าสิ่งดีๆ ที่เข้ามา ทุกข์ที่เข้ามา สุขที่เข้ามา เราก็รับด้วยใจสงบ ไม่ตื่นเต้นหรือกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เหมือนดังคำว่า "ธรรมะ" ซึ่งนั่นก็คือ ธรรมชาติ ธรรมดา นอกจากนี้ หากเกิดปัญหา เราก็ทำจิตใจให้รู้สึกท้าทายกับปัญหานั้น เห็นปัญหาแล้วกระโดดเข้าใส่เป็นการท้าทายสติปัญญา อย่ากลัวปัญหาและละลายปัญหาจากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย</div> | <div class="kindent">ให้รู้จักอดทน ทำจนเป็นนิสัย ไม่ว่าสิ่งดีๆ ที่เข้ามา ทุกข์ที่เข้ามา สุขที่เข้ามา เราก็รับด้วยใจสงบ ไม่ตื่นเต้นหรือกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เหมือนดังคำว่า "ธรรมะ" ซึ่งนั่นก็คือ ธรรมชาติ ธรรมดา นอกจากนี้ หากเกิดปัญหา เราก็ทำจิตใจให้รู้สึกท้าทายกับปัญหานั้น เห็นปัญหาแล้วกระโดดเข้าใส่เป็นการท้าทายสติปัญญา อย่ากลัวปัญหาและละลายปัญหาจากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย</div> | ||
บรรทัดที่ 29: | บรรทัดที่ 29: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน04.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน04.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''อ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่ายและประหยัด'''</h3> | <h3>'''[[ภูมิสังคมกับการพัฒนา|๔ ภูมิสังคม]]'''</h3> | ||
<div class="kindent">การพัฒนาใดๆ ต้องสอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นๆ เนื่องจากแต่ละแห่งคนไม่เหมือนกัน ต้องคำนึงถึงสภาพภูมิประเทศของบริเวณนั้นว่าเป็นอย่างไร และสังคมวิทยาเกี่ยวกับลักษณะนิสัยใจคอของคน ตลอดจนวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีก็ไม่เหมือนกัน ทรงใช้คำว่า "ภูมิสังคม" คือ ทรงดูลักษณะภูมิศาสตร์และลักษณะของสังคม ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า | |||
"...การพัฒนาจะต้องเป็นไปตามภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์ และภูมิประเทศทางสังคมศาสตร์ ในสังคมวิทยา ภูมิประเทศตามสังคมวิทยาคือ นิสัยใจคอของคนเรา จะไปบังคับให้คนคิดอย่างอื่นไม่ได้ เราต้องแนะนำ เราเข้าไปช่วย โดยที่จะคิดให้เขาเข้ากับเราไม่ได้ แต่ถ้าเราเข้าไปแล้ว เราเข้าไปดูว่าเขาต้องการอะไรจริงๆ แล้วก็อธิบายให้เขาเข้าใจหลักการของการพัฒนานี้ ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง..."</div> | |||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน16.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | |||
<h3>'''๕ อ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่ายและประหยัด'''</h3> | |||
<div class="kindent">ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เช่น นาฬิกาข้อพระกรที่พระองค์ทรงใช้ ไม่จำเป็นต้องราคาแพง แต่ทรงเน้นที่ประโยชน์ของการบอกเวลา ทรงอ่อนน้อมถ่อมพระองค์มาก เวลาที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ทรงโน้มพระวรกาย คุกเข่า และประทับพับเพียบเข้าหาประชาชน | <div class="kindent">ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เช่น นาฬิกาข้อพระกรที่พระองค์ทรงใช้ ไม่จำเป็นต้องราคาแพง แต่ทรงเน้นที่ประโยชน์ของการบอกเวลา ทรงอ่อนน้อมถ่อมพระองค์มาก เวลาที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ทรงโน้มพระวรกาย คุกเข่า และประทับพับเพียบเข้าหาประชาชน | ||
บรรทัดที่ 37: | บรรทัดที่ 44: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน05.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน05.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู'''</h3> | <h3>'''๖ ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู'''</h3> | ||
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกตัญญูต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบรมวงศ์มาก ทรงให้ความสำคัญในเรื่องความซื่อสัตย์มาก ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า | <div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกตัญญูต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบรมวงศ์มาก ทรงให้ความสำคัญในเรื่องความซื่อสัตย์มาก ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า | ||
บรรทัดที่ 46: | บรรทัดที่ 53: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน06.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน06.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเคารพความคิดที่แตกต่าง'''</h3> | <h3>'''๗ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเคารพความคิดที่แตกต่าง'''</h3> | ||
<div class="kindent">ในทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปในพื้นที่ต่างๆ ทรงทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) ทุกครั้ง โดยวิธีการของพระองค์นั้นเป็นวิธีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดยจะทรงอธิบายถึงวัตถุประสงค์และผลที่ได้รับจากโครงการพัฒนากับพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ ล้อมรอบอยู่ หลังจากนั้นจะทรงถามถึงความต้องการของประชาชน ความสมัครใจและให้ตกลงกันเองในกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์และกลุ่มที่จะต้องเสียสละในขณะนั้นเลย พร้อมทั้งทรงการแผนที่เพื่อตรวจสอบถึงข้อมูลและข้อเท็จจริงของสภาพภูมิประเทศ และหลังจากนั้นก็จะทรงเรียกผู้นำท้องถิ่นและฝ่ายปกครองให้มารับทราบและดำเนินการในขั้นต้น ก่อนที่จะพระราชทานให้หน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเชิงบริหารและวิชาการต่อไปจนเสร็จสิ้นโครงการ | <div class="kindent">ในทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปในพื้นที่ต่างๆ ทรงทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) ทุกครั้ง โดยวิธีการของพระองค์นั้นเป็นวิธีที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา โดยจะทรงอธิบายถึงวัตถุประสงค์และผลที่ได้รับจากโครงการพัฒนากับพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ ล้อมรอบอยู่ หลังจากนั้นจะทรงถามถึงความต้องการของประชาชน ความสมัครใจและให้ตกลงกันเองในกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์และกลุ่มที่จะต้องเสียสละในขณะนั้นเลย พร้อมทั้งทรงการแผนที่เพื่อตรวจสอบถึงข้อมูลและข้อเท็จจริงของสภาพภูมิประเทศ และหลังจากนั้นก็จะทรงเรียกผู้นำท้องถิ่นและฝ่ายปกครองให้มารับทราบและดำเนินการในขั้นต้น ก่อนที่จะพระราชทานให้หน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้องดำเนินการในเชิงบริหารและวิชาการต่อไปจนเสร็จสิ้นโครงการ | ||
บรรทัดที่ 55: | บรรทัดที่ 62: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน07.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน07.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ความตั้งใจจริงและมีความเพียร'''</h3> | <h3>'''๘ ความตั้งใจจริงและมีความเพียร'''</h3> | ||
<div class="kindent">ทำงานต้องมีความตั้งใจ อย่าทำงานไปวันๆ ตั้งใจทำงานจะทำให้มีแรง มีกำลังใจ และต้องขยันหมั่นเพียร งานบางอย่างยาก แต่ก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้ ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานข้อคิดเกี่ยวกับความเพียรในพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก" ความตอนหนึ่งว่า | <div class="kindent">ทำงานต้องมีความตั้งใจ อย่าทำงานไปวันๆ ตั้งใจทำงานจะทำให้มีแรง มีกำลังใจ และต้องขยันหมั่นเพียร งานบางอย่างยาก แต่ก็ต้องฟันฝ่าไปให้ได้ ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานข้อคิดเกี่ยวกับความเพียรในพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก" ความตอนหนึ่งว่า | ||
บรรทัดที่ 64: | บรรทัดที่ 71: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน08.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน08.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''กาแฟต้นเดียว : ก้าวแรกที่กล้าก้าว'''</h3> | <h3>'''๙ กาแฟต้นเดียว : ก้าวแรกที่กล้าก้าว'''</h3> | ||
<div class="kindent">เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาชาวเขา คือเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรไร่กาแฟที่ชาวกะเหรี่ยงปลูกไว้ บริเวณพื้นที่บ้างอังกาน้อย ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ไร่แห่งนั้นมีต้นกาแฟเพียงต้นเดียว มีพระราชกระแสกับข้าราชบริพารที่อยู่ในขบวนเสด็จฯ ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการเสด็จฯ ข้ามเขาสูงมาเพื่อการนี้ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาว่า "...แต่ก่อนเขาปลูกฝิ่น เราไปพูดจาชี้แจงชักชวนให้เขามาลองปลูกกาแฟแทน กะเหรี่ยงไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน ยังดีที่กาแฟไม่ตายเสียหมด แต่ยังเหลืออยู่หนึ่งต้นนั้น ต้องถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับกะเหรี่ยง..." จึงต้องเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรจะได้แนะนำเขาต่อไปว่า ทำอย่างไรกาแฟจึงจะเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งต้น ปรากฏว่าปีต่อมาราษฎรชาวกะเหรี่ยงดอยอินทนนท์ขายกาแฟได้เป็นเงินต่อไร่ต่อปีสูงกว่าที่เคยขายฝิ่นได้</div> | <div class="kindent">เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาชาวเขา คือเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรไร่กาแฟที่ชาวกะเหรี่ยงปลูกไว้ บริเวณพื้นที่บ้างอังกาน้อย ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ไร่แห่งนั้นมีต้นกาแฟเพียงต้นเดียว มีพระราชกระแสกับข้าราชบริพารที่อยู่ในขบวนเสด็จฯ ที่ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการเสด็จฯ ข้ามเขาสูงมาเพื่อการนี้ด้วยพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตาว่า "...แต่ก่อนเขาปลูกฝิ่น เราไปพูดจาชี้แจงชักชวนให้เขามาลองปลูกกาแฟแทน กะเหรี่ยงไม่เคยปลูกกาแฟมาก่อน ยังดีที่กาแฟไม่ตายเสียหมด แต่ยังเหลืออยู่หนึ่งต้นนั้น ต้องถือว่าเป็นความก้าวหน้าสำหรับกะเหรี่ยง..." จึงต้องเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรจะได้แนะนำเขาต่อไปว่า ทำอย่างไรกาแฟจึงจะเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งต้น ปรากฏว่าปีต่อมาราษฎรชาวกะเหรี่ยงดอยอินทนนท์ขายกาแฟได้เป็นเงินต่อไร่ต่อปีสูงกว่าที่เคยขายฝิ่นได้</div> | ||
บรรทัดที่ 71: | บรรทัดที่ 78: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน09.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน09.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม'''</h3> | <h3>'''๑๐ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม'''</h3> | ||
<div class="kindent">โดยต้องคิดให้ดี ให้ลึกซึ้ง อย่างเช่นโครงการเขื่อนป่าสักฯ เป็นการดำเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี ที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและไม่ได้ละเลยคนส่วนน้อยที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม เมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์อย่างมากมาย คนส่วนรวมต้องช่วยคนกลุ่มเล็กที่เสียสละอย่างเต็มที่ | <div class="kindent">โดยต้องคิดให้ดี ให้ลึกซึ้ง อย่างเช่นโครงการเขื่อนป่าสักฯ เป็นการดำเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี ที่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและไม่ได้ละเลยคนส่วนน้อยที่ต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม เมื่อส่วนรวมได้ประโยชน์อย่างมากมาย คนส่วนรวมต้องช่วยคนกลุ่มเล็กที่เสียสละอย่างเต็มที่ | ||
บรรทัดที่ 80: | บรรทัดที่ 87: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน10.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน10.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''เข้าใจความต้องการของประชาชน'''</h3> | <h3>'''๑๑ เข้าใจความต้องการของประชาชน'''</h3> | ||
<div class="kindent">ถ้าประชาชนไม่ต้องการอย่าไปยัดเยียดอะไรให้ ดังเช่นการดำเนินงานโครงการต่างๆ ให้แก่ประชาชนนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ ว่า | <div class="kindent">ถ้าประชาชนไม่ต้องการอย่าไปยัดเยียดอะไรให้ ดังเช่นการดำเนินงานโครงการต่างๆ ให้แก่ประชาชนนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ ว่า | ||
บรรทัดที่ 89: | บรรทัดที่ 96: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน11.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน11.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''พึ่งตนเอง'''</h3> | <h3>'''๑๒ พึ่งตนเอง'''</h3> | ||
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนให้ชาวไทยสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งตนเองทั้งทางด้านจิตใจ ที่ต้องเข้มแข็ง มีจิตสำนึกที่ดี สร้างสรรค์ให้ตนเองและชาติโดยรวม ด้านสังคม ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายชุมชนที่แข็งแรงเป็นอิสระ หรือแม้กระทั่งด้านเศรษฐกิจที่ต้องมุ่งลดรายจ่ายก่อนเป็นสำคัญ และยึดหลักพออยู่ พอกิน พอใช้และสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองในระดับพื้นฐาน ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า | <div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสอนให้ชาวไทยสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งตนเองทั้งทางด้านจิตใจ ที่ต้องเข้มแข็ง มีจิตสำนึกที่ดี สร้างสรรค์ให้ตนเองและชาติโดยรวม ด้านสังคม ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายชุมชนที่แข็งแรงเป็นอิสระ หรือแม้กระทั่งด้านเศรษฐกิจที่ต้องมุ่งลดรายจ่ายก่อนเป็นสำคัญ และยึดหลักพออยู่ พอกิน พอใช้และสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองในระดับพื้นฐาน ดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า | ||
บรรทัดที่ 98: | บรรทัดที่ 105: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน12.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน12.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง'''</h3> | <h3>'''๑๓ ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง'''</h3> | ||
<div class="kindent">ควรให้การสนับสนุนส่งเสริมผู้ปฏิบัติงาน เพราะคนดี คนเก่ง จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาความเจริญในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังพระราชดำรัสที่ว่า | <div class="kindent">ควรให้การสนับสนุนส่งเสริมผู้ปฏิบัติงาน เพราะคนดี คนเก่ง จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาความเจริญในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังพระราชดำรัสที่ว่า | ||
"...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากอยู่แต่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..."</div> | "...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากอยู่แต่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้..."</div> | ||
บรรทัดที่ 105: | บรรทัดที่ 112: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน13.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน13.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน'''</h3> | <h3>'''๑๔ การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน'''</h3> | ||
<div class="kindent">ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัวอย่างเดียวอยู่ไม่รอด ต้องรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริแก่คนไทยไว้ว่า | <div class="kindent">ต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัวอย่างเดียวอยู่ไม่รอด ต้องรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริแก่คนไทยไว้ว่า | ||
บรรทัดที่ 115: | บรรทัดที่ 122: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน14.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน14.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ปรัชญา[[เศรษฐกิจพอเพียง]]'''</h3> | <h3>'''๑๕ ปรัชญา[[เศรษฐกิจพอเพียง]]'''</h3> | ||
<div class="kindent">คือยึดความพอดี พอเพียง พอควร เป็นที่ตั้ง อย่าทำอะไรให้ล้นเกินพอดี เศรษฐกิจพอเพียงอธิบายอย่างง่ายที่สุด คือ ถ้ากินมากก็จุก ไม่กินหรือกินน้อยก็หิวโหย ทำอะไรให้พอดี แต่ต้องทำอย่างเต็มศักยภาพที่แต่ละคนมีอยู่ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ | <div class="kindent">คือยึดความพอดี พอเพียง พอควร เป็นที่ตั้ง อย่าทำอะไรให้ล้นเกินพอดี เศรษฐกิจพอเพียงอธิบายอย่างง่ายที่สุด คือ ถ้ากินมากก็จุก ไม่กินหรือกินน้อยก็หิวโหย ทำอะไรให้พอดี แต่ต้องทำอย่างเต็มศักยภาพที่แต่ละคนมีอยู่ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ | ||
บรรทัดที่ 124: | บรรทัดที่ 131: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน15.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน15.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''รู้ รัก สามัคคี'''</h3> | <h3>'''๑๖ รู้ รัก สามัคคี'''</h3> | ||
<div class="kindent">รู้ คือ รู้ต้นเหตุ รู้ปปลายเหตุ แล้วถึงเริ่มทำงาน จะได้มีประสิทธิภาพ ต้องรู้ถึงปัจจัยทั้งหมด ทั้งรู้ถึงปัญหา และรู้ถึงวิธีการแก้ไขปัญหา</div> | <div class="kindent">รู้ คือ รู้ต้นเหตุ รู้ปปลายเหตุ แล้วถึงเริ่มทำงาน จะได้มีประสิทธิภาพ ต้องรู้ถึงปัจจัยทั้งหมด ทั้งรู้ถึงปัญหา และรู้ถึงวิธีการแก้ไขปัญหา</div> | ||
บรรทัดที่ 143: | บรรทัดที่ 143: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน17.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน17.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา'''</h3> | <h3>'''๑๗ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา'''</h3> | ||
<div class="kindent">เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน การพัฒนาในด้านต่างๆ ต้องเข้าใจภูมิประเทศ เข้าใจคน เข้าใจหลักปฏิบัติและที่สำคัญ เราเข้าใจเขาและจะต้องทำอย่างไรให้เขาเข้าใจเราด้วย เราเข้าถึงเขาแล้ว ต้องทำอย่างไรให้เขาอยากเข้าถึงเราด้วย เมื่อเข้าใจกันแล้วก็สามารถที่จะนำไปสู่การพัฒนาในขั้นต่อไปได้</div> | <div class="kindent">เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจก่อน การพัฒนาในด้านต่างๆ ต้องเข้าใจภูมิประเทศ เข้าใจคน เข้าใจหลักปฏิบัติและที่สำคัญ เราเข้าใจเขาและจะต้องทำอย่างไรให้เขาเข้าใจเราด้วย เราเข้าถึงเขาแล้ว ต้องทำอย่างไรให้เขาอยากเข้าถึงเราด้วย เมื่อเข้าใจกันแล้วก็สามารถที่จะนำไปสู่การพัฒนาในขั้นต่อไปได้</div> | ||
บรรทัดที่ 150: | บรรทัดที่ 150: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน18.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน18.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ปลูกป่าในใจคน'''</h3> | <h3>'''๑๘ ปลูกป่าในใจคน'''</h3> | ||
<div class="kindent">เป็นการปลูกป่าลงบนแผ่นดิน ด้วยความต้องการอยู่รอดของมนุษย์ ทำให้ต้องการบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เพื่อประโยชน์ของตนเองและสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งแวดล้อม ไม่รู้จักพอ ปัญหาความไม่สมดุลจึงบังเกิดขึ้น ดังนั้นในการที่จะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้กลับคืนมาจะต้องปลูกจิตสำนึกในการรักผืนป่าให้แก่คนเสียก่อน ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า | <div class="kindent">เป็นการปลูกป่าลงบนแผ่นดิน ด้วยความต้องการอยู่รอดของมนุษย์ ทำให้ต้องการบริโภคและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง เพื่อประโยชน์ของตนเองและสร้างความเสียหายให้แก่สิ่งแวดล้อม ไม่รู้จักพอ ปัญหาความไม่สมดุลจึงบังเกิดขึ้น ดังนั้นในการที่จะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้กลับคืนมาจะต้องปลูกจิตสำนึกในการรักผืนป่าให้แก่คนเสียก่อน ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า | ||
บรรทัดที่ 158: | บรรทัดที่ 158: | ||
[[ภาพ:หลักการทรงงาน19.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | [[ภาพ:หลักการทรงงาน19.jpg|ในหลวงประกอบพระราชกรณียกิจ|center]] | ||
<h3>'''ทำงานอย่างมีความสุข'''</h3> | <h3>'''๒๐ ทำงานอย่างมีความสุข'''</h3> | ||
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ และทรงมีความสุขทุกคราที่ได้ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเคยรับสั่งครั้งหนึ่งว่า | <div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ และทรงมีความสุขทุกคราที่ได้ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเคยรับสั่งครั้งหนึ่งว่า | ||
"...ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกัน ในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น..."</div> | "...ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกัน ในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น..."</div> | ||
<h3>'''๒๑ ขาดทุน คือ กำไร (Our loss is our gain.)'''</h3> | |||
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยึดหลัก "การให้" และ "การเสียสละ" เป็นการกระทำอันมีผลเป็นกำไร คือความอยู่ดีมีสุขของราษฎร ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนได้ ทรงดำเนินงานที่ยึดผลสำเร็จแห่งความ "คุ้มค่า" มากกว่า "คุ้มทุน" ทรงเล็งเห็นผลที่ได้จากการลงทุนเพื่อประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ อันได้แก่ความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ซึ่งไม่สามารถตีค่าเป็นตัวเงินได้ และมีความสำคัญมากกว่าตัวเลขตามหลักเศรษฐศาสตร์ที่อาจจะถือว่าเป็นการลงทุนที่ขาดทุนหรือไม่คุ้มทุน</div> | |||
<h3>'''๒๒ องค์รวม (Holistic)'''</h3> | |||
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีวิธีคิดเป็นองค์รวมหรือมองอย่างครบวงจร ในการพระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการหนึ่งนั้นจะทรงมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขอย่างเชื่อมโยง เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่ที่พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างเป็นองค์รวม ตั้งแต่การถือครองที่ดินโดยเฉลี่ยประมาณ ๑๐ - ๑๕ ไร่ เพื่อการบริหารจัดการที่ดินและแหล่งน้ำ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในการประกอบอาชีพ เมื่อมีน้ำในการทำเกษตรแล้วส่งผลให้ผลผลิตดีขึ้น นำไปสู่การเรียนรู้วิธีการจัดการและการตลาด รวมถึงการรวมกลุ่มรวมพลังชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อพร้อมที่จะออกสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคมภายนอกได้อย่างครบวงจร | |||
การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยึดหลักการดำเนินงานอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว กับภูมิสังคมและสามารถปฏิบัติได้จริง ทรงมองปัญหาตั้งแต่ภาพใหญ่จนถึงภาพเล็ก | |||
ในทุกๆ มิติ ทรงเน้นความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติเป็นสำคัญ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาที่สร้างประโยชน์และคุณูปการต่อพสกนิกรอย่างสูงสุด | |||
<span style="color:#00AEEF">หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแรงบันดาลใจอันสูงค่า สมควรอย่างยิ่งที่ปวงชนชาวไทยทั้งหลายจะเจริญตามรอยพระยุคลบาท น้อมนำหลักการทรงงานมาเป็นพื้นฐานการปฏิบัติของตน ทั้งในด้านการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิต เพื่อประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ สมดังที่พระองค์ทรงวางรากฐานแห่งความดี ความพอเพียง ทั้งจากพระราชจริยวัตรอันงดงามเป็นที่ประจักษ์ จากพระราชดำรัสที่เป็นดังพรอันประเสริฐและพระราชทานชี้แนะแนวทางแห่งความสุข จากการทรงงานที่ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เหล่านี้ล้วนทรงปลูกฝังไว้แก่ปวงชนชาวไทยเพื่อให้แผ่นดินได้วัฒนาอย่างถาวรสืบไป</span> | |||
</div> | |||
---- | ---- |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:46, 7 ตุลาคม 2552
หลักการทรงงาน
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑ ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ
๒ ระเบิดจากข้างใน
๓ อดทน มุ่งมั่น
๔ ภูมิสังคม
๕ อ่อนน้อม ถ่อมตน เรียบง่ายและประหยัด
๖ ซื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู
๗ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและเคารพความคิดที่แตกต่าง
๘ ความตั้งใจจริงและมีความเพียร
๙ กาแฟต้นเดียว : ก้าวแรกที่กล้าก้าว
๑๐ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
๑๑ เข้าใจความต้องการของประชาชน
๑๒ พึ่งตนเอง
๑๓ ส่งเสริมคนดีและคนเก่ง
๑๔ การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน
"...สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่..."
อีกทั้งทรงรับสั่งอยู่เสมอเกี่ยวกับการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ว่า ที่พระองค์ทรงทำอยู่นั้นทรงใช้หลักสังฆทาน ความหมายนี้ลึกซึ้งมาก คือ "ให้เพื่อให้" พระองค์ไม่เคยนึกว่าเมื่อให้แล้วจะต้องอย่างนั้นอย่างนี้ หลักสังฆทานให้โดยไม่เลือก ในฐานะเพื่อนมนุษย์ผู้ประสบความทุกข์ยากก็มีโครงการเข้าไปช่วยเหลือ ให้เพื่อให้จริงๆ ไม่ได้ให้เพื่อคิดหวังอะไรตอบแทน
๑๕ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
๑๖ รู้ รัก สามัคคี
๑๗ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
๑๘ ปลูกป่าในใจคน
๒๐ ทำงานอย่างมีความสุข
๒๑ ขาดทุน คือ กำไร (Our loss is our gain.)
๒๒ องค์รวม (Holistic)
การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยึดหลักการดำเนินงานอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว กับภูมิสังคมและสามารถปฏิบัติได้จริง ทรงมองปัญหาตั้งแต่ภาพใหญ่จนถึงภาพเล็ก ในทุกๆ มิติ ทรงเน้นความเรียบง่ายและความเป็นธรรมชาติเป็นสำคัญ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาที่สร้างประโยชน์และคุณูปการต่อพสกนิกรอย่างสูงสุด
หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแรงบันดาลใจอันสูงค่า สมควรอย่างยิ่งที่ปวงชนชาวไทยทั้งหลายจะเจริญตามรอยพระยุคลบาท น้อมนำหลักการทรงงานมาเป็นพื้นฐานการปฏิบัติของตน ทั้งในด้านการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิต เพื่อประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ต่อสังคมและต่อประเทศชาติ สมดังที่พระองค์ทรงวางรากฐานแห่งความดี ความพอเพียง ทั้งจากพระราชจริยวัตรอันงดงามเป็นที่ประจักษ์ จากพระราชดำรัสที่เป็นดังพรอันประเสริฐและพระราชทานชี้แนะแนวทางแห่งความสุข จากการทรงงานที่ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่าง เหล่านี้ล้วนทรงปลูกฝังไว้แก่ปวงชนชาวไทยเพื่อให้แผ่นดินได้วัฒนาอย่างถาวรสืบไป
หนังสือตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ด้วยทศพิธราชธรรม และหลักการทำงาน
จัดพิพม์เผยแพร่เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาศมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
โดย สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.)