ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ร-โรคเรื้อน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 7 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
<div id="bg_g1t"> </div> | <div id="bg_g1t"> </div> | ||
<div id="bg_g1"> | <div id="bg_g1"> | ||
<h1> | <h1>พุทธศักราช ๒๔๙๘ โรคเรื้อนระบาด</h1> | ||
<div class="kindent">เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรบ้านเมืองในกรุงเทพฯ โรคภัยอีกอย่างหนึ่งที่ทรงพบคือ '''โรคเรื้อน''' ผู้ที่เป็นโรคไม่ได้รับการรักษาและอยู่ร่วมกับผู้คนปกติทั่วไป ทรงวิตกด้วยเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลทุกขเวทนาต่อร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย เนื่องจากถูกผู้คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวแสดงอาการรังเกียจหวาดกลัว เสมือนผู้ป่วยโรคนี้เป็นอาชญากรที่ต้องถูกจับกุม ส่งผลให้ผู้ป่วยหลบซ่อนตัวไม่ยอมให้ใครมารักษาบำบัดทำให้โรคแพร่ออกไปอีกมาก | <div class="kindent">เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรบ้านเมืองในกรุงเทพฯ โรคภัยอีกอย่างหนึ่งที่ทรงพบคือ '''โรคเรื้อน''' ผู้ที่เป็นโรคไม่ได้รับการรักษาและอยู่ร่วมกับผู้คนปกติทั่วไป ทรงวิตกด้วยเป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลทุกขเวทนาต่อร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย เนื่องจากถูกผู้คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวแสดงอาการรังเกียจหวาดกลัว เสมือนผู้ป่วยโรคนี้เป็นอาชญากรที่ต้องถูกจับกุม ส่งผลให้ผู้ป่วยหลบซ่อนตัวไม่ยอมให้ใครมารักษาบำบัดทำให้โรคแพร่ออกไปอีกมาก | ||
<div style="clear:both"></div> | |||
[[ภาพ:ราชประชาสมาสัย.jpg|left|300px|เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร สถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓]] | |||
<div class="kindent">เมื่อปี ๒๔๙๘ มีการแพร่ระบาดของโรคเรื้อนเกิดขึ้นอย่างมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดทำโครงการควบคุมโรคดังกล่าวขึ้น ซึ่งตามโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง ๑๒ ปี เพื่อหยุดการระบาดของโรคนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงทรงให้เร่งรัดโครงการให้เหลือ ๘ ปี และทรงรับโครงการควบคุมโรคเรื้อนของกระทรวงสาธารณสุขไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ รวมทั้งให้จัดตั้ง "สถาบันราชประชาสมาสัย" ขึ้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้การบำบัดฟื้นฟู และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน รวมทั้งฝึกอาชีพให้ผู้ป่วยด้วย และได้พระราชทานเงินทุนอานันทมหิดล สร้างอาคาร ๔ หลัง ในบริเวณสถานพยาบาลพระประแดง เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาอบรมเจ้าหน้าที่ในการบำบัดโรคเรื้อน โดยเริ่มเปิดใช้งานเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓ ปัจจุบันตามรายงานสถานการณ์โรคเรื้อนของสถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อปี ๒๕๔๘ ปรากฎว่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๐ คน ซึ่งในอดีตจะมีผู้ป่วยโรคนี้ ๕๐ คนต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน | |||
</div> | |||
<div style="clear:both"></div> | |||
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินส่วนหนึ่งจากทุนอานันทมหิดล ในการจัดสร้างสถาบันค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อนขึ้นในพุทธศักราช ๒๕๐๑ ณ โรงพยาบาลโรคเรื้อนที่ป้อมปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พระราชทานนามว่า '''ราชประชาสมาสัย''' อันมีความหมายว่าพระราชากับประชาชนร่วมมือกัน เนื่องด้วยมีประชาชนจำนวนมากได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลในการจัดหาทุน และได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินที่เหลือจากการจัดสร้างอาคารแก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ในกิจการควบคุมโรคเรื้อนต่อไป อันเป็นที่มาของมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวได้ว่าในช่วงพุทธศักราช ๒๔๙๙ - ๒๕๓๗ การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริได้ขยายออกไปจนครบทุกจังหวัด สามารถรับผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนผู้ป่วยได้เกือบ ๑๗๐,๐๐๐ ราย และบำบัดรักษาจนหายจากโรคจำนวน ๘๓,๙๙๓ ราย ส่วนผู้ป่วยที่แพทย์เห็นว่าหมดเชื้อที่จะติดต่อได้แล้วนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้อยู่ในนิคมต่างๆ ๑๒ นิคมทั่วประเทศและทำงานเกษตรกรรม ทอผ้า จักสาน โดยใช้เงินทุนที่ได้รับจากมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อจำหน่ายผลผลิตได้แล้วจึงนำมาผ่อนชำระให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินส่วนหนึ่งจากทุนอานันทมหิดล ในการจัดสร้างสถาบันค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อนขึ้นในพุทธศักราช ๒๕๐๑ ณ โรงพยาบาลโรคเรื้อนที่ป้อมปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พระราชทานนามว่า '''ราชประชาสมาสัย''' อันมีความหมายว่าพระราชากับประชาชนร่วมมือกัน เนื่องด้วยมีประชาชนจำนวนมากได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลในการจัดหาทุน และได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินที่เหลือจากการจัดสร้างอาคารแก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ในกิจการควบคุมโรคเรื้อนต่อไป อันเป็นที่มาของมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวได้ว่าในช่วงพุทธศักราช ๒๔๙๙ - ๒๕๓๗ การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริได้ขยายออกไปจนครบทุกจังหวัด สามารถรับผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนผู้ป่วยได้เกือบ ๑๗๐,๐๐๐ ราย และบำบัดรักษาจนหายจากโรคจำนวน ๘๓,๙๙๓ ราย ส่วนผู้ป่วยที่แพทย์เห็นว่าหมดเชื้อที่จะติดต่อได้แล้วนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้อยู่ในนิคมต่างๆ ๑๒ นิคมทั่วประเทศและทำงานเกษตรกรรม ทอผ้า จักสาน โดยใช้เงินทุนที่ได้รับจากมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อจำหน่ายผลผลิตได้แล้วจึงนำมาผ่อนชำระให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป | ||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 13: | ||
สำหรับลูกหลานของผู้ป่วยที่ถูกเลี้ยงแยกออกมาและไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงเรียนราชประชาสมาสัยขึ้นที่ตำบลบางจาก อำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และทรงติดตามความก้าวหน้าของโรงเรียนตลอดมาจนสามารถจัดตั้ง[[มูลนิธิราชประชาสมาสัย|มูลนิธิโรงเรียนราชประชาสมาสัย]] เพื่อสนับสนุนโรงเรียนราชประชาสมาสัย ซึ่งต่อมาได้อยู่ในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ | สำหรับลูกหลานของผู้ป่วยที่ถูกเลี้ยงแยกออกมาและไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงเรียนราชประชาสมาสัยขึ้นที่ตำบลบางจาก อำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และทรงติดตามความก้าวหน้าของโรงเรียนตลอดมาจนสามารถจัดตั้ง[[มูลนิธิราชประชาสมาสัย|มูลนิธิโรงเรียนราชประชาสมาสัย]] เพื่อสนับสนุนโรงเรียนราชประชาสมาสัย ซึ่งต่อมาได้อยู่ในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ | ||
</div> | </div> | ||
<div style="display:table;width:90%; border:solid | <center> | ||
<div style="display:table; width:90%; border:thin solid red" align="center"> | |||
<div style="display:table; width:90%; margin-left:5%;text-align:left"> | |||
สถานการณ์โรคเรื้อนในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง จากการสำรวจอัตราความชุกของโรค (Prevalence Rate : PR) ในพุทธศักราช ๒๕๔๙ เท่ากับ ๐.๑๙/๑๐,๐๐๐ ประชากร โดยมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๑๕๓ ราย เมื่อเทียบกับพุทธศักราช ๒๕๔๘ ที่มีอัตราความชุกของโรคเท่ากับ ๐.๒๕/๑๐,๐๐๐ ประชากรมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๑ ราย | สถานการณ์โรคเรื้อนในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง จากการสำรวจอัตราความชุกของโรค (Prevalence Rate : PR) ในพุทธศักราช ๒๕๔๙ เท่ากับ ๐.๑๙/๑๐,๐๐๐ ประชากร โดยมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๑๕๓ ราย เมื่อเทียบกับพุทธศักราช ๒๕๔๘ ที่มีอัตราความชุกของโรคเท่ากับ ๐.๒๕/๑๐,๐๐๐ ประชากรมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๑ ราย | ||
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 21: | ||
สถานการณ์โรคเรื้อน สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส http://sasuk12.com/naratiwat/health_news/news_item.asp?NewsID=29 | สถานการณ์โรคเรื้อน สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส http://sasuk12.com/naratiwat/health_news/news_item.asp?NewsID=29 | ||
</div> | </div></div> | ||
</center> | |||
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:48, 5 ตุลาคม 2552
พุทธศักราช ๒๔๙๘ โรคเรื้อนระบาด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินส่วนหนึ่งจากทุนอานันทมหิดล ในการจัดสร้างสถาบันค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อนขึ้นในพุทธศักราช ๒๕๐๑ ณ โรงพยาบาลโรคเรื้อนที่ป้อมปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พระราชทานนามว่า ราชประชาสมาสัย อันมีความหมายว่าพระราชากับประชาชนร่วมมือกัน เนื่องด้วยมีประชาชนจำนวนมากได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลในการจัดหาทุน และได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินที่เหลือจากการจัดสร้างอาคารแก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ในกิจการควบคุมโรคเรื้อนต่อไป อันเป็นที่มาของมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวได้ว่าในช่วงพุทธศักราช ๒๔๙๙ - ๒๕๓๗ การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริได้ขยายออกไปจนครบทุกจังหวัด สามารถรับผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนผู้ป่วยได้เกือบ ๑๗๐,๐๐๐ ราย และบำบัดรักษาจนหายจากโรคจำนวน ๘๓,๙๙๓ ราย ส่วนผู้ป่วยที่แพทย์เห็นว่าหมดเชื้อที่จะติดต่อได้แล้วนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้อยู่ในนิคมต่างๆ ๑๒ นิคมทั่วประเทศและทำงานเกษตรกรรม ทอผ้า จักสาน โดยใช้เงินทุนที่ได้รับจากมูลนิธิราชประชาสมาสัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อจำหน่ายผลผลิตได้แล้วจึงนำมาผ่อนชำระให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป
สำหรับลูกหลานของผู้ป่วยที่ถูกเลี้ยงแยกออกมาและไม่มีโอกาสได้เข้าเรียนหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงเรียนราชประชาสมาสัยขึ้นที่ตำบลบางจาก อำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ และทรงติดตามความก้าวหน้าของโรงเรียนตลอดมาจนสามารถจัดตั้งมูลนิธิโรงเรียนราชประชาสมาสัย เพื่อสนับสนุนโรงเรียนราชประชาสมาสัย ซึ่งต่อมาได้อยู่ในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ
สถานการณ์โรคเรื้อนในปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง จากการสำรวจอัตราความชุกของโรค (Prevalence Rate : PR) ในพุทธศักราช ๒๕๔๙ เท่ากับ ๐.๑๙/๑๐,๐๐๐ ประชากร โดยมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๑๕๓ ราย เมื่อเทียบกับพุทธศักราช ๒๕๔๘ ที่มีอัตราความชุกของโรคเท่ากับ ๐.๒๕/๑๐,๐๐๐ ประชากรมีผู้ป่วยขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๑ ราย
ที่มา: สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค ๒๕๔๙ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 203.157.15.4/Annual49/Part1/28_Leprosy.doc
สถานการณ์โรคเรื้อน สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส http://sasuk12.com/naratiwat/health_news/news_item.asp?NewsID=29
ดูเพิ่มเติม | การแพทย์ / มูลนิธิราชประชาสมาสัย |
---|