ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การสื่อสาร"
(New page: <center>'''การสื่อสาร'''</center> <div style="display:table"> 150px|leftพระบาทสมเด็จพ...) |
|||
บรรทัดที่ 11: | บรรทัดที่ 11: | ||
==<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๔๙๕ สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต'''</div>== | ==<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๔๙๕ สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต'''</div>== | ||
เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงขึ้นในตำหนักที่ประทับชื่อ "สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต" คำว่า อ.ส.ทรงย่อมาจาก "พระที่นั่งอัมพรสถาน" วัตถุประสงค์ประการสำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกรสามารถใกล้ชิดพระองค์ได้ง่ายขึ้น | เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงขึ้นในตำหนักที่ประทับชื่อ "สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต" คำว่า อ.ส.ทรงย่อมาจาก "พระที่นั่งอัมพรสถาน" วัตถุประสงค์ประการสำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกรสามารถใกล้ชิดพระองค์ได้ง่ายขึ้น | ||
<div><center>[[ภาพ:สถานีอส1.jpg|250px]][[ภาพ:สถานีอส2.jpg]]</center></div> | <div><center>[[ภาพ:สถานีอส1.jpg|250px]] [[ภาพ:สถานีอส2.jpg|130px]]</center></div> | ||
นอกจากวิทยุกระจายเสียงแล้ว ในปี ๒๕๑๐ อันเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ด้วยความที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารว่าจะช่วยให้พระองค์ได้รับฟังข่าวสาร เกี่ยวกับความทุกข์สุขของราษฎร จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้รวบรวมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานของภาครัฐ มาพัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงให้ทำการเชื่อมโยงข่ายสื่อสาร ให้รับฟังได้ทั่วประเทศ ในส่วนของพระองค์เอง ทรงศึกษาค้นคว้าและทดลองเรื่องสายอากาศ การแผ่กระจายของคลื่นวิทยุ รวมทั้งระบบการติดต่อโดยผ่านสถานีทวนสัญญาณ ในการสื่อสารโทรคมนาคม เมื่อการทดลองประสบผลเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงทรงพระราชทานพระราชดำริ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษา ปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนได้พระราชทานคำนะนำ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ นำไปใช้ประโยชน์เป็นส่วนรวมต่อไป | นอกจากวิทยุกระจายเสียงแล้ว ในปี ๒๕๑๐ อันเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ด้วยความที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารว่าจะช่วยให้พระองค์ได้รับฟังข่าวสาร เกี่ยวกับความทุกข์สุขของราษฎร จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้รวบรวมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานของภาครัฐ มาพัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงให้ทำการเชื่อมโยงข่ายสื่อสาร ให้รับฟังได้ทั่วประเทศ ในส่วนของพระองค์เอง ทรงศึกษาค้นคว้าและทดลองเรื่องสายอากาศ การแผ่กระจายของคลื่นวิทยุ รวมทั้งระบบการติดต่อโดยผ่านสถานีทวนสัญญาณ ในการสื่อสารโทรคมนาคม เมื่อการทดลองประสบผลเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงทรงพระราชทานพระราชดำริ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษา ปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนได้พระราชทานคำนะนำ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ นำไปใช้ประโยชน์เป็นส่วนรวมต่อไป | ||
<div style="display:table"> | <div style="display:table"> | ||
บรรทัดที่ 25: | บรรทัดที่ 28: | ||
พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนให้เห็นได้วัดจากพระราชดำรัสองค์หนึ่งที่ได้พระราชทานแก่คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัครในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูงและสัญญาณเรียกขาน HS1A เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๒ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า | พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนให้เห็นได้วัดจากพระราชดำรัสองค์หนึ่งที่ได้พระราชทานแก่คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัครในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูงและสัญญาณเรียกขาน HS1A เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๒ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า | ||
<div style="color:darkgreen"> | <div style="color:darkgreen"> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:10, 29 กุมภาพันธ์ 2551
พุทธศักราช ๒๔๙๕ สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต
เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงขึ้นในตำหนักที่ประทับชื่อ "สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต" คำว่า อ.ส.ทรงย่อมาจาก "พระที่นั่งอัมพรสถาน" วัตถุประสงค์ประการสำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้พสกนิกรสามารถใกล้ชิดพระองค์ได้ง่ายขึ้น
นอกจากวิทยุกระจายเสียงแล้ว ในปี ๒๕๑๐ อันเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยยังขาดแคลนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ด้วยความที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการสื่อสารว่าจะช่วยให้พระองค์ได้รับฟังข่าวสาร เกี่ยวกับความทุกข์สุขของราษฎร จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้รวบรวมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานของภาครัฐ มาพัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงให้ทำการเชื่อมโยงข่ายสื่อสาร ให้รับฟังได้ทั่วประเทศ ในส่วนของพระองค์เอง ทรงศึกษาค้นคว้าและทดลองเรื่องสายอากาศ การแผ่กระจายของคลื่นวิทยุ รวมทั้งระบบการติดต่อโดยผ่านสถานีทวนสัญญาณ ในการสื่อสารโทรคมนาคม เมื่อการทดลองประสบผลเป็นที่พอพระราชหฤทัย จึงทรงพระราชทานพระราชดำริ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับไปศึกษา ปรับปรุงแก้ไข ตลอดจนได้พระราชทานคำนะนำ ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ นำไปใช้ประโยชน์เป็นส่วนรวมต่อไป
เพื่อพัฒนาเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อปี ๒๘๑๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนืออยู่ในขณะนั้น ออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถี่สูงมากขึ้น หรือที่เรียกกว่า VHF ทั้งเพื่อการใช้งานกับวิทุยส่วนพระองค์ เพื่อพระราชทานให้แก่หน่วยราชการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ความสามารถในด้านการสื่อสาร สามารถพัฒนาระบบวิทยุสื่อสารขึ้นใช้ในประเทศเอง
ต่อมาในปี ๒๕๒๘ ได้พระราชทานพระราชดำริให้ทำการทดลอง ค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับงานวิทยุสื่อสารและสายอากาศ เช่น ระบบวิทยุทวนสัญญาณย่านความถี่สูงและพัฒนาสายอากาศชนิดพกพา เป็นต้น เพื่อให้สามารถใช้งานตามป่าเขาได้จะได้ทรงใช้วิทยุสื่อสารในการพระราชทานคำแนะนำการปฏิบัติการแก่หน่วยบินฝนหลวงหรือทรงใช้สถานีวิทยุ อส. เป็นสื่อสร้างความเข้าใจ และให้การศึกษาแก่ประชาชน ตลอดจนเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ประสานความช่วยเหลือเพื่อคนในชาติ
พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนให้เห็นได้วัดจากพระราชดำรัสองค์หนึ่งที่ได้พระราชทานแก่คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัครในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูงและสัญญาณเรียกขาน HS1A เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๒ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า
"... ผู้ที่ทำการในด้านวิทยุสมัครเล่นและวิทยุอาสา ต้องปฏิบัติการมาเป็นเวลานานพอสมควร และเข้าใจถึงเรื่องวิทยุ และวิธีศึกษาได้ดี นอกจากรู้จักหลักวิชาการและเทคโนโลยีของวิทยุ ก็จะต้องเห็นประโยชน์ของการสื่อสารที่มีต่อสังคมและประเทศชาติ... สิ่งที่ได้เห็นและเห็นใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมความถี่ มีคลื่นวิทยุที่กวนซึ่งกันและกันมาก ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นโดยตั้งใจก็เป็นสิ่งควรแนะนำตักเตือน ถ้าเป็นโดยไม่ตั้งใจ คือทางวิชาการของการแพร่คลื่นวิทยุย่อมต้องมีการรบกวนซึ่งกันและกันได้ แต่เป็นธรรมชาติตามวิชาการของการแพร่กระจายคลื่นวิทยุที่คลื่นหนึ่งอาจไปรบกวนอีกคลื่นหนึ่งได้ อย่างนี้ถ้าเรียนรู้กันและมีวีธีแก้ไข ก็จะเป็นการดี ทางฝ่ายควบคุมความถี่นี้จึงมีความรับผิดชอบมาก...
ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ