ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย"

จาก WIKI84
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 2: บรรทัดที่ 2:
=== ===
=== ===
<div style="display:table; width:100%">
<div style="display:table; width:100%">
'''๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖'''
'''๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖'''<nowiki>*</nowiki>


[[ภาพ:สิทธิบัตร2.jpg|150px|left]]เป็นที่น่าปีติยินดีเป็นล้นพ้นแก่ปวงพสกนิกรไทยทั้งมวล เมื่อเครื่องกลเติมอากาศ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖ นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ๙ ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรและเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตรถวายแด่พระมหากษัตริย์ด้วย จึงนับได้ว่าสิทธิบัตรเครื่องกลเติมอากาศในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นเป็น "สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก"
[[ภาพ:สิทธิบัตร2.jpg|150px|left]]เป็นที่น่าปีติยินดีเป็นล้นพ้นแก่ปวงพสกนิกรไทยทั้งมวล เมื่อเครื่องกลเติมอากาศ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖ นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ๙ ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรและเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตรถวายแด่พระมหากษัตริย์ด้วย จึงนับได้ว่าสิทธิบัตรเครื่องกลเติมอากาศในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นเป็น "สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก"
บรรทัดที่ 9: บรรทัดที่ 9:
<div style="display:table; width:100%">
<div style="display:table; width:100%">
<div style="text-indent: 30px; padding-top:30px; float:left">
<div style="text-indent: 30px; padding-top:30px; float:left">
'''วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔'''
'''วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔'''<nowiki>**</nowiki>


จากพระราชดำริและพระวิริยะอุตสาหะในการที่จะหาพลังงานจากธรรมชาติมาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง <br />โดยทรงริเริ่มในเรื่องน้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีโซฮอล์ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จนเกิดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม<br />บริสุทธิ์ขนาดเล็กขึ้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส และได้มีการจดสิทธิบัตร โดยนายอำพล เสนาณรงค์ <br />องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ยื่นจดสิทธิบัตร เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔ ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ <br />ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์คือ <br />"การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล" สิทธิบัตรเลขที่ ๑๐๗๖๔</div><div style="float:left">[[ภาพ:สิทธิบัตร.jpg]]</div></div>
จากพระราชดำริและพระวิริยะอุตสาหะในการที่จะหาพลังงานจากธรรมชาติมาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง <br />โดยทรงริเริ่มในเรื่องน้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีโซฮอล์ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จนเกิดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม<br />บริสุทธิ์ขนาดเล็กขึ้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส และได้มีการจดสิทธิบัตร โดยนายอำพล เสนาณรงค์ <br />องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ยื่นจดสิทธิบัตร เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔ ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ <br />ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์คือ <br />"การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล" สิทธิบัตรเลขที่ ๑๐๗๖๔</div><div style="float:left">[[ภาพ:สิทธิบัตร.jpg]]</div></div>


=== ===
=== ===
<div style="text-indent: 30px;">'''ปี ๒๕๔๔'''  
<div style="text-indent: 30px;">'''ปี ๒๕๔๔''' <nowiki>**</nowiki>


สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้จัดส่งผลงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติชื่องาน "Burssels Eureka 2001" ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นของพระองค์ ส่งผลให้การคิดค้น ๓ ผลงาน คือ "ทฤษฎีใหม่" "โครงการฝนหลวง" และ "โครงการน้ำมันไบโอดีเซลสูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม" ได้รับเหรียญทองประกาศนียบัตรสดุดีเทิดพระเกียรติคุณพร้อมถ้วยรางวัล ผลงานของพระองค์ล้วนเป็นผลการคิดค้นแนวใหม่ในการพัฒนาประเทศนำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีแก่ประชาชนชาวไทยถ้วนหน้า
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้จัดส่งผลงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติชื่องาน "Burssels Eureka 2001" ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นของพระองค์ ส่งผลให้การคิดค้น ๓ ผลงาน คือ "ทฤษฎีใหม่" "โครงการฝนหลวง" และ "โครงการน้ำมันไบโอดีเซลสูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม" ได้รับเหรียญทองประกาศนียบัตรสดุดีเทิดพระเกียรติคุณพร้อมถ้วยรางวัล ผลงานของพระองค์ล้วนเป็นผลการคิดค้นแนวใหม่ในการพัฒนาประเทศนำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีแก่ประชาชนชาวไทยถ้วนหน้า
บรรทัดที่ 23: บรรทัดที่ 23:
----
----


{{แม่แบบ:สำนักงาน กปร.2}}
<nowiki>**</nowiki>{{แม่แบบ:สำนักงาน กปร.2}}






[[หมวดหมู่:รางวัลฯ]][[หมวดหมู่:พระราชกรณียกิจ]]
[[หมวดหมู่:รางวัลฯ]][[หมวดหมู่:พระราชกรณียกิจ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:27, 28 กุมภาพันธ์ 2551

สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย

๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖*

เป็นที่น่าปีติยินดีเป็นล้นพ้นแก่ปวงพสกนิกรไทยทั้งมวล เมื่อเครื่องกลเติมอากาศ "กังหันน้ำชัยพัฒนา" ได้รับการพิจารณาและทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๖ นับเป็นสิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ ๙ ของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรและเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตรถวายแด่พระมหากษัตริย์ด้วย จึงนับได้ว่าสิทธิบัตรเครื่องกลเติมอากาศในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นเป็น "สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก"

วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔**

จากพระราชดำริและพระวิริยะอุตสาหะในการที่จะหาพลังงานจากธรรมชาติมาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยทรงริเริ่มในเรื่องน้ำมันแก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีโซฮอล์ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ จนเกิดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม
บริสุทธิ์ขนาดเล็กขึ้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส และได้มีการจดสิทธิบัตร โดยนายอำพล เสนาณรงค์
องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ยื่นจดสิทธิบัตร เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๔ ณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์คือ
"การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล" สิทธิบัตรเลขที่ ๑๐๗๖๔

ปี ๒๕๔๔ **

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้จัดส่งผลงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติชื่องาน "Burssels Eureka 2001" ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ด้วยพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นของพระองค์ ส่งผลให้การคิดค้น ๓ ผลงาน คือ "ทฤษฎีใหม่" "โครงการฝนหลวง" และ "โครงการน้ำมันไบโอดีเซลสูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม" ได้รับเหรียญทองประกาศนียบัตรสดุดีเทิดพระเกียรติคุณพร้อมถ้วยรางวัล ผลงานของพระองค์ล้วนเป็นผลการคิดค้นแนวใหม่ในการพัฒนาประเทศนำมาซึ่งความปลาบปลื้มยินดีแก่ประชาชนชาวไทยถ้วนหน้า



**ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ