ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สังคมสงเคราะห์"
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 14: | ||
</div> | </div> | ||
<div class="kindent"><span style="color:darkgreen">"ให้ไปให้ความอบอุ่น ไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยฉับพลัน ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือ มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป"</span> | |||
<div class="kindent" style="clear:both"><span style="color:darkgreen">"ให้ไปให้ความอบอุ่น ไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยฉับพลัน ทำให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือ มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานต่อไป"</span> | |||
<div class="kindent"><span style="color:darkgreen"> | <div class="kindent"><span style="color:darkgreen"> | ||
"การช่วยผู้ที่ประสบภัยนั้นจะต้องช่วยในระยะสั้น หมายความว่า เป็นเวลาที่ฉุกเฉินต้องช่วยโดยเร็ว และต่อไปก็จะต้องช่วยให้ต่อเนื่อง...ส่วนเรื่องการช่วยเหลือระยะยาวก็มีความจำเป็นเหมือนกัน...เป็นผลว่าเขาได้รับการดูแล เหลียวแลมาจนกระทั่งได้รับการศึกษาที่สามารถทำมาหากินได้โดยสุจริต โดยมีประสิทธิภาพ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ..." </span>พระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๓๙ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา</div> | "การช่วยผู้ที่ประสบภัยนั้นจะต้องช่วยในระยะสั้น หมายความว่า เป็นเวลาที่ฉุกเฉินต้องช่วยโดยเร็ว และต่อไปก็จะต้องช่วยให้ต่อเนื่อง...ส่วนเรื่องการช่วยเหลือระยะยาวก็มีความจำเป็นเหมือนกัน...เป็นผลว่าเขาได้รับการดูแล เหลียวแลมาจนกระทั่งได้รับการศึกษาที่สามารถทำมาหากินได้โดยสุจริต โดยมีประสิทธิภาพ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ..." </span>พระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๓๙ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา</div> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:54, 4 มีนาคม 2551
พุทธศักราช ๒๕๐๕ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์
ในเหตุการณ์ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้นำในการให้ความช่วยเหลือทันที โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถานีวิทยุ อ.ส พระราชวังดุสิตประกาศให้ประชาชนทราบข่าว และเชิญชวนบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรม ปรากฏว่ามีผู้ร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ประมาณ ๑๑ ล้านบาท พระองค์ได้พระราชทานเงินทั้งหมดให้กรมประชาสงเคราะห์ นำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป ปรากฏว่าหลังการให้ความช่วยเหลือ ยังคงมีเงินเหลืออยู่อีกประมาณ ๓ ล้านบาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปจัดตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ หมายถึง มูลนิธิที่พระมหากษัตริย์และประชาชนร่วมกันจัดตั้งขึ้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยโดยฉับพลันทั่วประเทศ ในลักษณะการช่วยเหลือเฉพาะหน้าเกี่ยวกับเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต
๒๓ สิงหาคม ๒๕๐๖ เริ่มกิจการ "มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์" เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนผู้ที่ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัยต่างๆ อย่างทันท่วงที ตลอดจนสงเคราะห์เรื่องทุนการศึกษา อุปกรณ์การศึกษา และโรงเรียน
"... ผู้ที่ประสบภัยโดยเฉพาะเด็กๆ ได้สูญเสียทั้งโรงเรียน ทั้งผู้อุปการะฉะนั้นได้ตั้งนโยบายที่จะช่วยเหลือเด็ก ที่เป็นกำพร้าจากภัยธรรมชาติเหล่านั้น เลยตั้งโรงเรียนและได้อุปการะเด็กให้มีที่เรียน และมีผู้ปกครองคือมูลนิธิ ให้สามารถที่จะเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ จนกระทั่งจบโรงเรียนมัธยม มีบางรายก็ได้สนับสนุนจะกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาและเลยไปก็ได้..." พระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
พุทธศักราช ๒๕๐๖ มูลนิธิราชประชาสมาสัย
ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ