![](https://wiki84.hii.or.th/images/Banner-Homepage.jpg)
ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การแพทย์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 28: | บรรทัดที่ 28: | ||
[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่.jpg|150px|หน่วยแพทย์เคลื่อนที่]]<div class="kindent">เมื่อปี ๒๔๙๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากทวาร ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงพบว่าราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นไข้จับสั่นและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชปรารภว่าในท้องที่ห่างไกลที่แพทย์และพยาบาลเข้าไปไม่ถึงนั้น ราษฎรต้องถูกโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ทั้งๆ ที่โรคที่เป็น สามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะ และเวชภัณฑ์ ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาประชาชนในท้องถิ่นธุรกันดาร เริ่มจากจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกชื่อว่า '''"หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน"''' ต่อมาเมื่อปี ๒๔๙๙ ให้จัดตั้งขึ้นอีก ๒ แห่ง คือ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคใต้</div> | [[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่.jpg|150px|หน่วยแพทย์เคลื่อนที่|left]]<div class="kindent">เมื่อปี ๒๔๙๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากทวาร ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงพบว่าราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นไข้จับสั่นและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชปรารภว่าในท้องที่ห่างไกลที่แพทย์และพยาบาลเข้าไปไม่ถึงนั้น ราษฎรต้องถูกโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ทั้งๆ ที่โรคที่เป็น สามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะ และเวชภัณฑ์ ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาประชาชนในท้องถิ่นธุรกันดาร เริ่มจากจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกชื่อว่า '''"หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน"''' ต่อมาเมื่อปี ๒๔๙๙ ให้จัดตั้งขึ้นอีก ๒ แห่ง คือ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคใต้</div> | ||
<div style="clear:both"></div> | <div style="clear:both"></div> | ||
บรรทัดที่ 56: | บรรทัดที่ 56: | ||
==='''พุทธศักราช ๒๔๙๘ โรคเรื้อนระบาด'''=== | ==='''พุทธศักราช ๒๔๙๘ โรคเรื้อนระบาด'''=== | ||
[[ภาพ:ราชประชาสมาสัย.jpg|left|เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร สถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓]] | [[ภาพ:ราชประชาสมาสัย.jpg|left|300px|เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร สถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓]] | ||
<div class="kindent">เมื่อปี ๒๔๙๘ มีการแพร่ระบาดของโรคเรื้อนเกิดขึ้นอย่างมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดทำโครงการควบคุมโรคดังกล่าวขึ้น ซึ่งตามโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง ๑๒ ปี เพื่อหยุดการระบาดของโรคนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงทรงให้เร่งรัดโครงการให้เหลือ ๘ ปี และทรงรับโครงการควบคุมโรคเรื้อนของกระทรวงสาธารณสุขไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ รวมทั้งให้จัดตั้ง "สถาบันราชประชาสมาสัย" ขึ้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้การบำบัดฟื้นฟู และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน รวมทั้งฝึกอาชีพให้ผู้ป่วยด้วย และได้พระราชทานเงินทุนอานันทมหิดล สร้างอาคาร ๔ หลัง ในบริเวณสถานพยาบาลพระประแดง เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาอบรมเจ้าหน้าที่ในการบำบัดโรคเรื้อน โดยเริ่มเปิดใช้งานเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓ ปัจจุบันตามรายงานสถานการณ์โรคเรื้อนของสถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อปี ๒๕๔๘ ปรากฎว่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๐ คน ซึ่งในอดีตจะมีผู้ป่วยโรคนี้ ๕๐ คนต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน | <div class="kindent">เมื่อปี ๒๔๙๘ มีการแพร่ระบาดของโรคเรื้อนเกิดขึ้นอย่างมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดทำโครงการควบคุมโรคดังกล่าวขึ้น ซึ่งตามโครงการดังกล่าวต้องใช้เวลาถึง ๑๒ ปี เพื่อหยุดการระบาดของโรคนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงทรงให้เร่งรัดโครงการให้เหลือ ๘ ปี และทรงรับโครงการควบคุมโรคเรื้อนของกระทรวงสาธารณสุขไว้เป็นโครงการในพระราชดำริ รวมทั้งให้จัดตั้ง "สถาบันราชประชาสมาสัย" ขึ้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้การบำบัดฟื้นฟู และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน รวมทั้งฝึกอาชีพให้ผู้ป่วยด้วย และได้พระราชทานเงินทุนอานันทมหิดล สร้างอาคาร ๔ หลัง ในบริเวณสถานพยาบาลพระประแดง เพื่อใช้เป็นสถานศึกษาอบรมเจ้าหน้าที่ในการบำบัดโรคเรื้อน โดยเริ่มเปิดใช้งานเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓ ปัจจุบันตามรายงานสถานการณ์โรคเรื้อนของสถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อปี ๒๕๔๘ ปรากฎว่ามีผู้ป่วยโรคเรื้อนมาขึ้นทะเบียนรักษาทั่วประเทศจำนวน ๑,๕๖๐ คน ซึ่งในอดีตจะมีผู้ป่วยโรคนี้ ๕๐ คนต่อประชากร ๑๐,๐๐๐ คน | ||
</div> | </div> | ||
<div class="clear:both"></div> | |||
==='''พุทธศักราช ๒๕๑๐ โรคอหิวาตกโรคระบาด'''=== | ==='''พุทธศักราช ๒๕๑๐ โรคอหิวาตกโรคระบาด'''=== | ||
<div class="kindent">เมื่อปี ๒๕๐๑ ได้เกิดอหิวาตกโรคระบาดอย่างรุนแรงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยเนื่องจากไม่มีวัคซีน ประการสำคัญคือขาดแคลน น้ำเกลือ เพราะน้ำเกลือที่ผลิตในประเทศยังไม่ได้มาตรฐาน ต้องสั่งเข้าจากต่างประเทศในราคาแพง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริให้ศึกษาเส้นทางเกลือ เพื่อค้นคว้าวิธีผลิตน้ำเกลือที่มีคุณภาพสำหรับใช้ภายในประเทศขึ้น สั่งพระราชดำรัสความตอนหนึ่งหว่า</div> | <div class="kindent">เมื่อปี ๒๕๐๑ ได้เกิดอหิวาตกโรคระบาดอย่างรุนแรงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยเนื่องจากไม่มีวัคซีน ประการสำคัญคือขาดแคลน น้ำเกลือ เพราะน้ำเกลือที่ผลิตในประเทศยังไม่ได้มาตรฐาน ต้องสั่งเข้าจากต่างประเทศในราคาแพง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริให้ศึกษาเส้นทางเกลือ เพื่อค้นคว้าวิธีผลิตน้ำเกลือที่มีคุณภาพสำหรับใช้ภายในประเทศขึ้น สั่งพระราชดำรัสความตอนหนึ่งหว่า</div> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:23, 21 กรกฎาคม 2551
แรกพระราชดำริสาธารณสุข : ทรงห่วงใยด้านสุขภาพอนามัย
![อาคารมหิดลวงศานุสรณ์](/images/thumb/0/06/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C.jpg/200px-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C.jpg)
พุทธศักราช ๒๔๙๖ จุดเริ่มต้นมาจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
![อาคารอานันทมหิดล](/images/thumb/c/c2/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5.jpg/150px-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5.jpg)
![ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการบริการหยอดยาโปลิโอ](/images/thumb/3/33/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AD1.jpg/300px-%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AD1.jpg)
![ในหลวงทรงหยอดยาโปลิโอแก่เด็ก](/images/thumb/0/0e/%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AD2.jpg/300px-%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%AD2.jpg)
พุทธศักราช ๒๔๙๖ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่หน่วยแรก
![หน่วยแพทย์เคลื่อนที่](/images/thumb/5/57/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.jpg/150px-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88.jpg)
'"เรือเวชพาหน์ หน่วยแพท์ทางน้ำ
![](/images/thumb/4/46/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%883.jpg/150px-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%883.jpg)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงให้ความสำคัญกับการสาธารณสุขในระยะยาวด้วย โดยทรงสนับสนุนด้านการศึกษาค้นคว้า และการวิจัย ทั้งทรงให้ความสำคัญกับบุคลากรด้านสาธารณสุข และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง "ทุนอานันทมหิดล" ขึ้นเมื่อปี ๒๔๙๘
ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนเป็นมูลนิธิอานันทมหิดล เพื่อการพิจารณาคัดเลือกบัณฑิตแพทย์ที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยม และมีคุณธรรมไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกในต่างประเทศ ปัจจุบันมูลนิธิอานันทมหิดลได้ขยายการให้การสนับสนุนการศึกษาในระดับสูงครอบคลุม ๘ สาขาวิชา ในจำนวนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการสาธารณสุข ๒ สาขา คือ แผนกแพทยศาสตร์ และแผนกทันตแพทยศาสตร์
ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคสมทบทุนโดยเสด็จพระราชกุศลได้เป็นรายบุคคลหรือเป็นคณะ
โทรศัพท์ 222-0859, 224-3288 โทรสาร 226-2909, 224-9858
รายละเอียดเกี่ยวกับการพระราชทานทุน และการดำเนินงานของมูลนิธิฯ สอบถามได้ที่
สำนักงานประสานงานของมูลนิธิอานันทมหิดล ตั้งอยู่ที่ สำนักงานเลขาธิการองคมนตรี ศาลาลูกขุนใน พระบรมมหาราชวัง
โทรศัพท์ 623-5833-4 โทรสาร 623-5835
มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล - http://www.princemahidolaward.org/about.th.php
พุทธศักราช ๒๔๙๘ โรคเรื้อนระบาด
![เสด็จฯ ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร สถาบันราชประชาสมาสัย เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๓](/images/thumb/7/77/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2.jpg/300px-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2.jpg)
พุทธศักราช ๒๕๑๐ โรคอหิวาตกโรคระบาด
**ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ