ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาพพระราชกรณียกิจชุดที่ 3"

จาก WIKI84
(สร้างหน้าใหม่: <center> <h1>ทรงเป็นหลักชัยไทยทั่วหล้า</h1> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอ...)
 
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
[[ภาพ:081009-พระราชกรณียกิจ3-01-2.jpg|center|300px]]
<center>
<center>
<h1>ทรงเป็นหลักชัยไทยทั่วหล้า</h1>
<h1>ทรงธำรงมรดกไทย</h1>


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประมุขของชาติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี<br />
ทรงให้ความสำคัญต่อกิจการของบ้านเมืองในทุกๆ ด้าน<br />
ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน<br />
ทั้งด้านการศาสนา การเมืองการปกครอง การทหาร ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ<br />
ทั้งทรงสนับสนุนกิจกรรมด้านการศาสนาอย่างต่อเนื่อง<br />
เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงให้แก่ประเทศชาติ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
</center>
</center>


<center>
<center>
{| width="800px" border="0"
{| width="800px" border="0"
|width="250px"|[[ภาพ:071009-พระราชกรณียกิจ2-02.jpg|200px|center]]||align = "left" width="550px"|'''พระราชพิธีด้านศาสนา'''
|width="250px"|[[ภาพ:081009-พระราชกรณียกิจ3-02.jpg|200px|center]]||align = "left" width="550px"|จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้องค์พระธาตุพนม พุทธศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครพนม อายุ ๒,๐๐๐ ปี ทรุดตัวพังทลายลงทั้งองค์ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘<br />รัฐบาลและประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุให้สง่างามดังเดิม
เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๐ รัฐบาลได้จัดงานฉลองกึ่งพุทธศตวรรษขึ้น โดยมีการจัดขบวนเรือพระราชพิธีอัญเชิญพระพุทธรูป พระไตรปิฎก และพระสงฆ์ แห่ไปตามลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๐๐ เป็นการเฉลิมฉลองและระลึกในพระไตรรัตนาธิคุณ มีเรือเข้าร่วมขบวนไม่ครบถ้วน
เมื่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธียกฉัตรยอดองค์พระธาตุพนมในวันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒ และได้เสด็จพระราชดำเนินไป
เนื่องจากเรือพระราชพิธีได้ชำรุดเสียหายไปตามสภาพและถูกทำลายจากภาวะสงครามมหาเอเชียบูรพา ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคขึ้น สำหรับเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน
ในพระราชพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ปีเดียวกัน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
วัดอรุณราชวราราม ตามราชประเพณีที่เคยมีมา เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป
|-
|[[ภาพ:081009-พระราชกรณียกิจ3-03.jpg|200px|center]]||พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีสังคายนาพระธรรมวินัย ตรวจชำระพระไตรปิฎก เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีคณะกรรมการปาลิวิโสธกะ ๓ คณะ ตรวจชำระพระไตรปิฎกทั้งภาษามคธและภาษาไทย ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จนแล้วเสร็จและทำพิธีส่งมอบ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๐
|-
|[[ภาพ:081009-พระราชกรณียกิจ3-04.jpg|200px|center]]||'''พระราชพิธีอันเนื่องด้วยพระบรมศพและพระบรมอัฐิ'''<br />หลังจากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
|-
|-
|[[ภาพ:071009-พระราชกรณียกิจ2-03.jpg|200px|center]]||เมื่อแรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างเสาชิงช้าและเทวสถานโบสถ์พราหมณ์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ตามโบราณราชประเพณี โดยให้มีพิธีโล้ชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมพวาย-ตรีปวาย ในเดือนยี่ของทุกปี พิธีโล้ชิงช้าได้ยกเลิกไปเมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๕
|[[ภาพ:081009-พระราชกรณียกิจ3-05.jpg|200px|center]]||ในวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง หลังจากนั้น ในวันที่ ๒๓ เมษายน ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิไปประดิษฐาน ณ พระวิมานชั้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร อัญเชิญไปบรรจุ ณ ท้ายจรนำ ด้านหลังพระอุโบสถวัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ปีเดียวกัน
|-
|-
|}
|}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:54, 8 ตุลาคม 2552

ทรงธำรงมรดกไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี
ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ทั้งทรงสนับสนุนกิจกรรมด้านการศาสนาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อธำรงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้องค์พระธาตุพนม พุทธศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครพนม อายุ ๒,๐๐๐ ปี ทรุดตัวพังทลายลงทั้งองค์ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘
รัฐบาลและประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุให้สง่างามดังเดิม

เมื่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธียกฉัตรยอดองค์พระธาตุพนมในวันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒ และได้เสด็จพระราชดำเนินไป ในพระราชพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ปีเดียวกัน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีสังคายนาพระธรรมวินัย ตรวจชำระพระไตรปิฎก เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีคณะกรรมการปาลิวิโสธกะ ๓ คณะ ตรวจชำระพระไตรปิฎกทั้งภาษามคธและภาษาไทย ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จนแล้วเสร็จและทำพิธีส่งมอบ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๐
พระราชพิธีอันเนื่องด้วยพระบรมศพและพระบรมอัฐิ
หลังจากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ในวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง หลังจากนั้น ในวันที่ ๒๓ เมษายน ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิไปประดิษฐาน ณ พระวิมานชั้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร อัญเชิญไปบรรจุ ณ ท้ายจรนำ ด้านหลังพระอุโบสถวัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ปีเดียวกัน