ภูมิสังคมกับการพัฒนา
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชดำริครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๒๑ และมีพระราชดำริอย่างต่อเนื่องอีกหลายครั้ง โดยสรุปให้สร้างประตูระบายน้ำพร้อมอาคารควบคุมตามลำน้ำสาขาต่างๆ ขุดลอกขยายคลองระบายน้ำ ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำจืดสำหรับการเกษตร การอุปโภค-บริโภค และแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทำกินของราษฎร ตลอดจนการกำหนดแนวเขตที่เหมาะสมในการแยกน้ำจืด น้ำเค็มออกจากกันให้ชัดเจน
จากสภาพลุ่มน้ำก่ำที่คดเคี้ยวจากเทือกเขาภูพานทอดยาวผ่านหลายอำเภอ จะไปบรรจบแม่น้ำโขงเป็นระยะทาง ๑๒๓ กิโลเมตร ซึ่งลำน้ำนี้หล่อเลี้ยงชีวิตประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งน้ำ แต่ในช่วงฤดูฝนน้ำจะหลากท่วมพื้นที่ทำกินทั้งสองฝั่ง แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งราษฎรจะขาดแคลนน้ำสำหรับการเพาะปลูก ด้วยสภาพภูมิศาสตร์สังคมที่ทรงทราบจากการเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมประชาชนในพื้นที่จึงทรงร่างภาพ "โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ" ให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการสร้างประตูระบายน้ำในลำน้ำก่ำเป็นระยๆ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ในลำน้ำให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ตลอดปีและเพียงพอสำหรับการเพาะปลูก
จากการพัฒนาแหล่งน้ำที่สอดคล้องกับสภาพภูมิศาสตร์แล้ว เมื่อพิจารณาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทางทางการเกษตรนั้น ทรงสนับสนุนให้ทำการเกษตรแบบสมัยที่บรรพบุรุษได้ทำมา และเป็นวิถีชีวิตของคนในชนบท นั่นคือ รอบๆ บริเวณบ้านจะมีทั้งพืชผักที่ใช้รับประทานเป็นประจำวัน เช่น พืชสมุนไพรสำหรับปรุงอาหาร เช่น ข่า ตะไคร้ โหระพา มะกรูด นอกจากนั้นยังมีไม้ผลหลายๆ ชนิด ชนิดละ ๒-๓ ต้น พร้อมๆ กับเลี้ยงไก่ สุกร โค กระบือ ซึ่งกินอาหารที่มีอยู่รอบๆ บ้าน ในนาก็มีปลา สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนในชนบทสามารถพึ่งพาตนเองได้ในด้านอาหาร ซึ่งเป็นลักษณะของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการเกษตรผสมผสาน และการเกษตรยั่งยืน ที่สอดคล้องกับสภาพภูมิศาสตร์สังคม เป็นวิถีชีวิตที่สามารถอยู่ได้ด้วยการพึ่งตนเอง โดยเฉพาะในเรื่องอาหารเป็นเบื้องต้น
ในเรื่องของการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ที่พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในลักษณะยั่งยืน และการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามสภาพภูมิประเทศ เช่น ในการดำเนินงานโครงการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พระราชทานพระราชดำริครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๓๕ มีใจความสรุปส่วนหนึ่งว่า การปลูกหญ้าแฝกให้พิจารณาลักษณะของภูมิประเทศและยังมีพระราชดำรัสกับเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินงานการปลูกหญ้าแฝกเกี่ยวกับการปลูกที่จะต้องคำนึงถึงสภาพภูมิประเทศอีกหลายครั้ง แม้กระทั่งพระบรมราโชวาทที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๐ ความตอนหนึ่งว่า
"...การปลูกหญ้าแฝกจะต้องปลูกให้ชิดติดกันเป็นแผง และวางแนวให้เหมาะสมกับลักษณะของภูมิประเทศ เป็นต้นว่า บนพื้นที่สูงจะต้องปลูกตามแนวขวางของความลาดชันและร่องน้ำ บนพื้นที่ราบจะต้องปลูกรอบแปลงหรือปลูกตามร่องสลับกับพืชไร่ ในพื้นที่เก็บกักน้ำจะต้องปลูกเป็นแนวเหนือแหล่งน้ำ"""
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่สำคัญอีกประเภทหนึ่งที่จัดตั้งขึ้นตามสภาพภูมิศาสตร์สังคม เพราะวัตถุประสงค์ที่สำคัญตามที่ได้พระราชทานพระราชดำรัสไว้เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๒๖ ความตอนหนึ่งว่า
"...ด้านหนึ่งก็เป็นจุดประสงค์ของศูนย์ศึกษาก็เป็นสถานที่สำหรับค้นคว้าวิจัยในท้องที่ เพราะว่าแต่ละท้องที่สภาพฝน ฟ้า อากาศ และประชาชนในท้องที่ต่างๆ กัน ก็มีลักษณะแตกต่างกันมากเหมือนกัน..."
ผลแห่งการพัฒนา
ดังนั้นการพัฒนาชุมชนใดๆ ก็ตาม ตลอดจนถึงการพัฒนาในระดับกว้างถึงระดับประเทศ ถ้าการพัฒนาเป็นไปตามสภาพภูมิศาสตร์และภูมิสังคม โดยทำไปตามลำดับขั้นแล้วความสำเร็จย่อมมีมาก ปัญหาต่างๆ ก็จะน้อยลง ความก้าวหน้าของประเทศก็จะเดินไปด้วยความมั่นคง และอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเองทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์และประชากร และสังคมอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี ประชาชนก็จะเป็นสุข