การสื่อสาร
การสื่อสาร
"การสื่อสารเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการพัฒนาสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้า รวมทั้งการรักษาความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศด้วย ยิ่งในสมัยปัจจุบัน ที่สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ย่อมมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ ทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของประเทศ จึงควรจะได้ร่วมมือกันดำเนินงานและประสานผลงานกันอย่างใกล้ชิดและสอดคล้อง สำคัญที่สุดควรจะได้พยายามศึกษาค้นคว้าวิชาการและเทคโนโลยีอันทันสมัยให้ลึกซึ้งและกว้างขวาง แล้วพิจารณาเลือกเฟ้นส่วนที่ดี มีประสิทธิภาพแน่นอนมาปรับปรุงใช้ด้วยความฉลาดริเริ่มให้พอเหมาะพอสมฐานะ และสภาพบ้านเมืองของเราเพื่อให้กิจการสื่อสารของชาติมีโอกาสได้พัฒนาอย่างเต็มที่ และสามารถอำนวยประโยชน์แก่การสร้างเสริมเศรษฐกิจ สังคม และเสถียรภาพของบ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง..."
พุทธศักราช ๒๔๙๕ สถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังดุสิต
นอกจากการสดับรับฟังข่าวทุกข์สุขของประชาชนอันเป็นพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติเป็นประจำแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังพระราชทานคำแนะนำแก่หน่วยงานต่างๆ ในการจัดระบบการสื่อสารให้สำเร็จลุล่วง ไปได้ด้วยดี ดังเช่นในพุทธศักราช ๒๕๒๘ ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ ๑๓ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารสำหรับการประสาน งานของคณะกรรมการสาขาต่างๆ ที่ประจำอยู่ในสนามแข่งขัน จึงดำเนินการติดตั้งเครื่องวิทยุถ่ายทอดสัญญาณ (Repeater) ที่ยอดเขาฉลาก อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ปรากฏว่ามีปัญหาเครื่องถ่ายทอดสัญญาณไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ระหว่างการทดลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดต่อเข้ามาสอบถามรายละเอียดต่างๆ และพระราชทานคำแนะนำตั้งแต่ความถี่ของเครื่องถ่ายทอดสัญญาณ ความถี่ที่เหมาะสมต่อการใช้ และการติดตั้งสายอากาศให้ใช้งานได้ดี ทำให้สามารถแก้ปัญหาไปได้อย่างลุล่วง อันแสดงถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
เพื่อพัฒนาเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อปี ๒๕๑๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนืออยู่ในขณะนั้น ออกแบบและสร้างสายอากาศย่านความถี่สูงมากขึ้น หรือที่เรียกกว่า VHF ทั้งเพื่อการใช้งานกับวิทุยส่วนพระองค์ เพื่อพระราชทานให้แก่หน่วยราชการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ความสามารถในด้านการสื่อสาร สามารถพัฒนาระบบวิทยุสื่อสารขึ้นใช้ในประเทศเอง
ต่อมาในปี ๒๕๒๘ ได้พระราชทานพระราชดำริให้ทำการทดลอง ค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับงานวิทยุสื่อสารและสายอากาศ เช่น ระบบวิทยุทวนสัญญาณย่านความถี่สูงและพัฒนาสายอากาศชนิดพกพา เป็นต้น เพื่อให้สามารถใช้งานตามป่าเขาได้จะได้ทรงใช้วิทยุสื่อสารในการพระราชทานคำแนะนำการปฏิบัติการแก่หน่วยบินฝนหลวงหรือทรงใช้สถานีวิทยุ อส. เป็นสื่อสร้างความเข้าใจ และให้การศึกษาแก่ประชาชน ตลอดจนเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ประสานความช่วยเหลือเพื่อคนในชาติ
พระอัจฉริยภาพด้านการสื่อสารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนให้เห็นได้วัดจากพระราชดำรัสองค์หนึ่งที่ได้พระราชทานแก่คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัครในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูงและสัญญาณเรียกขาน HS1A เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๒ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า
"... ผู้ที่ทำการในด้านวิทยุสมัครเล่นและวิทยุอาสา ต้องปฏิบัติการมาเป็นเวลานานพอสมควร และเข้าใจถึงเรื่องวิทยุ และวิธีศึกษาได้ดี นอกจากรู้จักหลักวิชาการและเทคโนโลยีของวิทยุ ก็จะต้องเห็นประโยชน์ของการสื่อสารที่มีต่อสังคมและประเทศชาติ... สิ่งที่ได้เห็นและเห็นใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมความถี่ มีคลื่นวิทยุที่กวนซึ่งกันและกันมาก ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นโดยตั้งใจก็เป็นสิ่งควรแนะนำตักเตือน ถ้าเป็นโดยไม่ตั้งใจ คือทางวิชาการของการแพร่คลื่นวิทยุย่อมต้องมีการรบกวนซึ่งกันและกันได้ แต่เป็นธรรมชาติตามวิชาการของการแพร่กระจายคลื่นวิทยุที่คลื่นหนึ่งอาจไปรบกวนอีกคลื่นหนึ่งได้ อย่างนี้ถ้าเรียนรู้กันและมีวีธีแก้ไข ก็จะเป็นการดี ทางฝ่ายควบคุมความถี่นี้จึงมีความรับผิดชอบมาก...
การกวนซึ่งกันและกันของความถี่มากจากธรรมชาติ ความถี่ที่กวนกันนั้นส่วนหนึ่งไม่มีทางแก้ไข และส่วนหนึ่งแก้ไขได้ คือ ต้องปรับเครื่องให้ดี รักษาระดับความถี่ให้ดี ทั้งรักษากำลังเครื่องให้ถูกต้อง แจกจ่ายความถี่ไปในพื้นที่ที่เหมาะสม และทำงานโดยมีวินัย"
ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ