ภาพพระราชกรณียกิจชุดที่ 3

จาก WIKI84

ทรงธำรงมรดกไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี
ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ทั้งทรงสนับสนุนกิจกรรมด้านการศาสนาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อธำรงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

จากเหตุการณ์ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันทำให้องค์พระธาตุพนม พุทธศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครพนม อายุ ๒,๐๐๐ ปี ทรุดตัวพังทลายลงทั้งองค์ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘
รัฐบาลและประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุให้สง่างามดังเดิม

เมื่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธียกฉัตรยอดองค์พระธาตุพนมในวันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒ และได้เสด็จพระราชดำเนินไป ในพระราชพิธีเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ปีเดียวกัน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีสังคายนาพระธรรมวินัย ตรวจชำระพระไตรปิฎก เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีคณะกรรมการปาลิวิโสธกะ ๓ คณะ ตรวจชำระพระไตรปิฎกทั้งภาษามคธและภาษาไทย ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ จนแล้วเสร็จและทำพิธีส่งมอบ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๐
พระราชพิธีอันเนื่องด้วยพระบรมศพและพระบรมอัฐิ
หลังจากสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ในวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพ ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง หลังจากนั้น ในวันที่ ๒๓ เมษายน ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิไปประดิษฐาน ณ พระวิมานชั้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร อัญเชิญไปบรรจุ ณ ท้ายจรนำ ด้านหลังพระอุโบสถวัดราชาธิวาส เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ปีเดียวกัน