ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ส-เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 28: | บรรทัดที่ 28: | ||
'''๓. พระตำหนักประจำภูมิภาคต่างๆ ที่เป็นฐานการทรงงานและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรอย่างทั่วถึง''' | '''๓. พระตำหนักประจำภูมิภาคต่างๆ ที่เป็นฐานการทรงงานและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรอย่างทั่วถึง''' | ||
<div class="kindent">ที่ประทับระยะแรกๆ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร เป็นสถานที่ที่หน่วยราชการในพื้นที่จัดถวาย ซึ่งอยู่ในเขตโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือที่ทำการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ เมื่อมีการสร้างพระตำหนักประจำภูมิภาคต่างๆ แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักเหล่านั้นในแต่ละภาคตามลำดับตั้งแต่ต้นปี ดังนี้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส และพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร อนึ่ง บางปีจะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจะได้ทรงมีโอกาสเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น | <div class="kindent">ที่ประทับระยะแรกๆ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร เป็นสถานที่ที่หน่วยราชการในพื้นที่จัดถวาย ซึ่งอยู่ในเขตโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือที่ทำการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ เมื่อมีการสร้างพระตำหนักประจำภูมิภาคต่างๆ แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักเหล่านั้นในแต่ละภาคตามลำดับตั้งแต่ต้นปี ดังนี้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส และพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร อนึ่ง บางปีจะเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจะได้ทรงมีโอกาสเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของราษฎรได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น | ||
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปถึงหมู่บ้านหรือพื้นที่เป้าหมายของแต่ละวัน จะมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้รอบรู้เกี่ยวกับพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หากทรงพบปัญหาเกี่ยวกับการดำรงชีพของราษฎร หรือในบางกรณีเมื่อราษฎรทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาก็จะเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ที่มีปัญหาด้วยพระองค์เอง แล้วจึงพระราชทานแนวพระราชดำริแก้ไขปัญหาแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาและฝ่ายรักษาความมั่นคงที่โดยเสด็จด้วย สำหรับฎีกาที่ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย จะทรงรับกลับมาและโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาศึกษาตามแนวพระราชดำริก่อนดำเนินการช่วยเหลือตามความเหมาะสม | |||
ในขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประกอบด้วยคณะแพทย์หลวงและคณะแพทย์อาสาผู้ชำนาญการหลายสาขาที่โดยเสด็จไปด้วยทุกแห่ง เมื่อขบวนเสด็จพระราชดำเนินไปหยุดที่ใดคณะแพทย์เหล่านี้จะรักษาราษฎรผู้เจ็บป่วยตามความเหมาะสม สำหรับรายที่มีอาการหนัก จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ | |||
ภาพที่ประชาชนเห็นจนชินตาคือ พระอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ประทับพับเพียบหรือประทับราบลงกับพื้นดินและมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างไม่ถือพระองค์ ในพระหัตถ์ข้างขวามีดินสอและพระหัตถ์ข้างซ้ายมีสมุดจดบันทึกหรือแผนที่ ปรากฏรอยแย้มพระโอษฐ์ทุกครั้งที่แวดล้อมด้วยราษฎร ไม่ว่าราษฎรผู้นั้นจะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในลักษณะใด ความไม่ถือพระองค์ยังเห็นได้จากราษฎรในพื้นที่ห่างไกลเหล่านั้นไม่คุ้นเคยกับการใช้คำราชาศัพท์ก็ไม่ทรงถือเป็นเรื่องใหญ่ | |||
กล่าวกันว่า ช่วงพุทธศักราช ๒๕๑๒ - ๒๕๒๐ ระยะทางที่เสด็จพระราชดำเนินยาวไกลกว่าหนึ่งแสนกิโลเมตรและหลังจากนั้นยังเสด็จพระราชดำเนินติดต่อกันอีกเกือบ ๑๐ ปี บ้างจึงว่าไกลกว่าระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ ทั้งนี้เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ทวยราษฎร์ แม้จะยังไม่มีการถวายพระราชสมัญญาอย่างเป็นทางการในการเดินทาง แต่อาจกล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เดินทางยาวไกลที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก | |||
<span style="color:darkgreen">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินอย่างแท้จริง กล่าวได้ว่าแผ่นดินในสยามประเทศนี้ ไม่มีจังหวัดใด หรืออำเภอใดที่ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนอาณาประชาราษฎร์ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้วยพระราชหฤทัยเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร อันนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติสืบต่อไป</span> | |||
</div> | </div> | ||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:36, 29 กันยายน 2552
พระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
๑. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรสมดังพระราชปณิธาน
การประกอบพระราชกรณียกิจในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงไว้เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอและโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ไปทรงเยี่ยมราษฎรทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ทำให้ทรงมีประสบการณ์และทรงเล็งเห็นปัญหาของสภาพบ้านเมืองและของพสกนิกรอย่างถ่องแท้
เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๕ การเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้นำมาซึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก และต่อเนื่องยาวนานมาตลอดระยะเวลา ๖๐ ปีแห่งการครองราชย์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของวังไกลกังวล รถยนต์พระที่นั่งเกิดตกหล่มที่บ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชาวบ้านมาช่วยยกรถที่ตกหล่มจำนวนมาก หลังจากนั้น พระองค์มีพระราชปฏิสันถารกับชาวบ้านและทรงพบว่าความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่นี้ คือ ความทุรกันดารของเส้นทาง จนทำให้ไม่สามารถนำผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดได้ทันเวลา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผลผลิตทางการเกษตร หรือแม้แต่นำคนไข้ไปพบแพทย์ได้อย่างทันการ ทั้งที่หมู่บ้านห่างจากอำเภอหัวหินเพียง ๒๐ กิโลเมตรเท่านั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระมหากรุณาให้ดำเนินการสร้างถนนห้วยมงคลให้แก่ราษฎร ซึ่งนับเป็นถนนแห่งพระเมตตาสายแรกที่ช่วยแก้ปัญหาความทุกข์ยากให้แก่ราษฎรตั้งแต่นั้นมา และนำมาซึ่งโครงการก่อสร้างถนนอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกมากมายหลายสายที่พระราชทานแก่พสกนิกรทั่วประเทศ
๒. เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรปัญหาของพสกนิกรทั่วประเทศ
ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปจังหวัดต่างๆ มีราษฎรมาคอยเฝ้ารับเสด็จเรียงรายสองข้างทางอย่างเนืองแน่น บางกลุ่มเดินทางรอนแรมมาจากพื้นที่ห่างไกลด้วยความยากลำบากเพราะการคมนาคมยังไม่สะดวก แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดเพียงใดก็ตาม แต่ก็อดทนรอเพื่อจะได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วยความจงรักภักดีอย่างเปี่ยมล้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รถยนต์พระที่นั่งหยุดรับของที่ราษฎรทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นระยะๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลผลิตทางการเกษตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเงินก้นถุงแก่ราษฎรเหล่านั้นและมีพระราชปฏิสันถารไต่ถามทุกข์สุขของราษฎร การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพสกนิกรอย่างใกล้ชิด ทำให้ทรงมีโอกาสศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศ บ้านเมือง ความเป็นอยู่ และการดำรงชีพของประชาชน ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีได้อย่างลึกซึ้ง หลังเสด็จพระราชดำเนินกลับจากการเยือนต่างประเทศ ทรงนำความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ จากประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ทรงเริ่มต้นจากการศึกษาค้นคว้า และวิจัยเป็นการส่วนพระองค์ คือ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา และขยายออกไปยังพื้นที่ที่เสด็จพระราชดำเนินไปบ่อยครั้ง เช่น อำเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น เพชรบุรีและราชบุรี เป็นต้น โดยมีพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวลเป็นศูนย์กลาง
๓. พระตำหนักประจำภูมิภาคต่างๆ ที่เป็นฐานการทรงงานและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรอย่างทั่วถึง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปถึงหมู่บ้านหรือพื้นที่เป้าหมายของแต่ละวัน จะมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้รอบรู้เกี่ยวกับพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หากทรงพบปัญหาเกี่ยวกับการดำรงชีพของราษฎร หรือในบางกรณีเมื่อราษฎรทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาก็จะเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ที่มีปัญหาด้วยพระองค์เอง แล้วจึงพระราชทานแนวพระราชดำริแก้ไขปัญหาแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาและฝ่ายรักษาความมั่นคงที่โดยเสด็จด้วย สำหรับฎีกาที่ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย จะทรงรับกลับมาและโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาศึกษาตามแนวพระราชดำริก่อนดำเนินการช่วยเหลือตามความเหมาะสม
ในขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประกอบด้วยคณะแพทย์หลวงและคณะแพทย์อาสาผู้ชำนาญการหลายสาขาที่โดยเสด็จไปด้วยทุกแห่ง เมื่อขบวนเสด็จพระราชดำเนินไปหยุดที่ใดคณะแพทย์เหล่านี้จะรักษาราษฎรผู้เจ็บป่วยตามความเหมาะสม สำหรับรายที่มีอาการหนัก จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
ภาพที่ประชาชนเห็นจนชินตาคือ พระอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ประทับพับเพียบหรือประทับราบลงกับพื้นดินและมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างไม่ถือพระองค์ ในพระหัตถ์ข้างขวามีดินสอและพระหัตถ์ข้างซ้ายมีสมุดจดบันทึกหรือแผนที่ ปรากฏรอยแย้มพระโอษฐ์ทุกครั้งที่แวดล้อมด้วยราษฎร ไม่ว่าราษฎรผู้นั้นจะเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในลักษณะใด ความไม่ถือพระองค์ยังเห็นได้จากราษฎรในพื้นที่ห่างไกลเหล่านั้นไม่คุ้นเคยกับการใช้คำราชาศัพท์ก็ไม่ทรงถือเป็นเรื่องใหญ่
กล่าวกันว่า ช่วงพุทธศักราช ๒๕๑๒ - ๒๕๒๐ ระยะทางที่เสด็จพระราชดำเนินยาวไกลกว่าหนึ่งแสนกิโลเมตรและหลังจากนั้นยังเสด็จพระราชดำเนินติดต่อกันอีกเกือบ ๑๐ ปี บ้างจึงว่าไกลกว่าระยะทางจากโลกถึงดวงจันทร์ ทั้งนี้เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ทวยราษฎร์ แม้จะยังไม่มีการถวายพระราชสมัญญาอย่างเป็นทางการในการเดินทาง แต่อาจกล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เดินทางยาวไกลที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินอย่างแท้จริง กล่าวได้ว่าแผ่นดินในสยามประเทศนี้ ไม่มีจังหวัดใด หรืออำเภอใดที่ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนอาณาประชาราษฎร์ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้วยพระราชหฤทัยเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร อันนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติสืบต่อไป
ตาราง ก พระตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรมเพื่อทรงงานและเยี่ยมเยียนราษฎร