พระเกียรติคุณปรากฏในนานาอารยประเทศ
พระเกียรติคุณปรากฏในนานาอารยประเทศ (พุทธศักราช ๒๕๔๐ - ๒๕๔๙)
นานาประเทศแซ่ซ้องพระเกียรติคุณ
รางวัลและคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติที่สถาบันทั้งหลายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นประจักษ์พยานสำคัญได้อย่างดีถึงพระปรีชาสามารถในพระองค์ อันเป็นสิ่งที่ประชาชนชาวไทยปลาบปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง และที่เหนือยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด พระปรีชาสามารถดังกล่าวยังเป็นที่ยอมรับด้วยใจของประชาคมโลกทั้งมวลที่มีความตระหนักในพระราชอุตสาหะ พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถ ซึ่งล้วนเป็นที่เล่าขานชื่นชมกันในหมู่นานาชาติอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทย และเป็นพระราชาที่ยิ่งใหญ่ในสายตาและความรู้สึกของชาวต่างประเทศด้วย
พุทธศักราช ๒๕๔๙ ประเทศไทยเป็นที่จับตามองของประชาคมโลก เมื่อมีพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างยิ่งใหญ่ เป็นวาระที่เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมายที่ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์สำคัญเพียงหนึ่งเดียวของชาติไทยและของโลก ทั้งปรากฏการณ์เสื้อเหลืองของมหาชนที่พร้อมใจกันแสดงพลังแห่งความจงรักภักดี รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินและเสด็จมาร่วมถวายพระพรชัยมงคลของสมเด็จพระราชาธิบดี สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์จาก ๒๕ ราชวงศ์ทั่วโลก โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนการาบรูไน ดารุสซาลาม ในฐานะทรงเป็นผู้แทนพระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งแสดงถึงการยอมรับในพระบารมีของพระประมุขของประเทศไทย ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
แต่หม่อมฉัน ตลอดจนองค์พระประมุขและพระราชอาคันตุกะทุกพระองค์ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาร่วมงานในวันนี้ ขอถวายพระราชสมัญญาที่เรียบง่ายแต่มีค่าและสะท้อนถึงความรู้สึกของหม่อมฉันและทุกพระองค์ ณ ที่นี้คือ ฝ่าพระบาททรงเป็นมิตรที่รักและพึงเคารพอย่างที่สุดของพวกเรา..."
พระราชดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนการาบรูไนดารุสซาลาม เนื่องในโอกาสงานถวายพระกระยาหารค่ำแด่พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ วันที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙ ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตมโหฬาร ในหมู่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท