ปริญญาฯ-มหาวิทยาลัยทัฟทส์
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
คำประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยทัฟทส์ สหรัฐอเมริกา
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานินิศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ณ โรงแรมไฮแอทท์เซ็นทรัลพลาซา
วันจันทร์ ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗
ในพุทธศักราช ๒๔๙๓* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เวลานั้นประเทศไทยเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขได้ไม่นาน ทั้งเพิ่งจะผ่านพ้นความกดดันจากภัยสงคราม และการยึดครอง แต่ด้วยความแน่วแน่ในพระราชปณิธานของสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ในอันที่จะธำรงไว้ซึ่งเอกราชของชาติ และความผาสุขของพสกนิกร พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดยสมบูรณ์และกว้างขวางยิ่งขึ้นทุกขวบปีที่ผ่านมา สมกับที่ทรงเป็นประมุขของชาติ ได้พระราชทานกำลังใจแก่ประชาชน และทรงเป็นผู้ปกป้องพสกนิกรของพระองค์อย่างแท้จริง
ในฤดูต่าง ๆ ในรอบปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังท้องถิ่น ที่อยู่ห่างไกลความเจริญทั่วราชอาณาจักร ในการนี้ ได้ทรงนำหน่วยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร การพัฒนาด้านโภชนาการ แนวความคิดใหม่ๆ ด้านการศึกษา และมาตรการเสริมสร้างความมั่นคง ปลอดภัย ไปพระราชทานแก่เหล่าพสกนิกร พระองค์สนพระราชหฤทัยในนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทุกอย่าง และมีพระราชหฤทัยแน่วแน่ในอันที่จะหาทางนำสิ่งใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพาชีวติของพสกนิกรด้านสุขอนามัย การศึกษา ตลอดจนความกินดีอยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัย
ผลสำเร็จจากพระปรีชาสามารถของพระองค์ เป็นตัวอย่างอันงดงามสำหรับประมุขของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรัฐบาลของพระองค์เป็นเสมือนดวงประทีปส่องทางให้แก่ชาวโลก ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อผู้ลี้ภัยชาวอินโดจีนผู้น่าสงสาร ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนนับแสนๆ คน ประเทศไทยได้อุทิศทรัพยากรของชาติเพื่อช่วยเหลือพวกเขาด้วยน้ำใจ ช่วยผู้ลี้ภัยเเป็นจำนวนนับพันนับหมื่นคนรอดพ้นจากความตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยเด็กที่ต้องพลอยรับเคราะห์จากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดใจนี้
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังเป็นพหระประมุขในยามที่ประเทศชาติต้องการผู้นำ พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถรอบด้าน ทรงชี้ให้พสกนิกรเห็นข้อดีของการนำประเพณีในอดีตมาผสมผสานกับสิ่งใหม่ๆ ที่เหมาะสมสำหรับการรังสรรค์ นวัตกรรมในยุคปัจจุบัน ทรงให้ความสำคัญกับคุณค่าของปรัชญา ศาสนา และวิถีทางสังคม ของเอเชีย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทรงคำนึงถึงความยุติธรรม ที่กอปรด้วยเมตตาธรรมเป็นอย่างยิ่ง ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็ได้ทรงแสวงหาวิธีการที่จะทำให้คุณค่าต่างๆ ดังกล่าวดำรงอยู่ได้อย่างสอดคล้องกลมกลืน กับการค้นคว้าวิจัยอยู่ตลอดเวลา ของโลกตะวันตกในด้านธรรมชาติของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรูปแบบการพัฒนาทางการเมืองและสังคมที่เกี่ยวเนื่องกัน
ด้วยเหตุผลทั้งปวงที่กล่าวมา รวมทั้งการได้ทรงแสดงให้ประจักษ์ชัดแจ้งตลอดมาว่าทรงธำรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรมแห่งพระมหากษัตริย์ มหาวิทยาลัยทัฟทส์จึงถือเป็นเกียรติอันพิเศษสุด ที่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานิติศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แค่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสนี้
*พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ และเสด็จเข้าการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
ณ โรงแรมไฮแอทท์เซ็นทรัลพลาซา กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทัฟทส์ สหรัฐอเมริกา
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
หน้าแรกประมวลคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ | บัญชีปริญญาดุษฎีบัณฑิตฯ | บัญชีตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ฯ | บัญชีรางวัลฯ | พระราชกรณียกิจ |