พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียง
พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียง
เมื่อเจริญพระชนมพรรษา พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุมีผล เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินพระชนมชีพของพระองค์ ดังจะเห็นได้จากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นการส่วนพระองค์ ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยพระธำมรงค์องค์เดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกพระราชทานแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายดังเช่นคู่สมรสทั่วไปและทรงจัดงานเลี้ยงฉลองเป็นการภายในระหว่างพระญาติสนิทและข้าราชบริพารใกล้ชิด ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับความสำคัญของการดำเนินชีวิตอย่างประหยัดแก่ประชาชนชาวไทย ดังพระราชดำรัสเมื่อต้นรัชกาลความตอนหนึ่งที่ว่า
"...ในภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าใคร่จะได้กล่าวถึงความสำคัญของการประหยัด ซึ่งรัฐบาลได้ชักชวนให้แต่ละคนปฏิบัติ คงจะได้ตระหนักอยู่แล้วทั่วกันว่า การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้นจะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย..."
กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๓ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๒
ยามปฏิบัติพระราชภารกิจ สิ่งที่ติดพระองค์ตลอดเวลา คือ ดินสอ กล้องถ่ายรูป แผนที่ และวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการทรงงาน เช่น ดินสอไม้ราคาไม่แพง มียางลบอยู่ตรงปลายดินสอ เพื่อลบคำที่เขียนผิดออกได้ง่าย ไม่เปลืองกระดาษเหมือนใช้ปากกา ทรงเหลาดินสอด้วยพระองค์เองและเหน็บไว้ที่กระเป๋าฉลองพระองค์เดือนละหนึ่งแท่งใช้จนกุดสั้น ทรงถ่ายรูปจนสุดม้วนฟิล์มแม้ในยามน้ำมันมีราคาสูง พระองค์ทรงเลือกยานพาหนะที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล นอกจากนั้น การดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวนมากล้วนอยู่ในกรอบของเศรษฐกิจพอเพียงนี้
พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียงนี้นับเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ชาวไทย