ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หน้าหลัก3"

จาก WIKI84
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 6 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
{| style="border-spacing:3px;margin:0px -3px"
{{แม่แบบ:เมนูรัชกาลที่9}}
{{แม่แบบ:พระราชประวัติ2}}


|style="width: 400px; border: 0px solid #cef2e0; background-color: #f5fffa; vertical-align: top;  -moz-border-radius:7px" |
 
{| width="100%" cellpadding="2" style="vertical-align:top; background-color:#f5fffa;  -moz-border-radius:10px"
{| style="width:100%; margin-top:50"
! style="background-color: #cef2e0; font-size: 125%; border: 1px solid #a3bfb1; text-align: left;  padding-left: 7px;  -moz-border-radius:7px" | <div style="float:right;">[[ภาพ:Wbar green1.jpg]]</div> พระราชกรณียกิจ
|-
|-
|{{พระราชกรณียกิจ2}}
| valign="top"|{{พระราชกรณียกิจ2}}
| width="10" |
| valign="top" |{{พระราชพิธีตามเดือน2}}<br />{{ทฤษฎีใหม่2}}
|}
|}
<!-- คอลัมน์ขวา -->
 
|style="width: 40%; border: 1px solid #cedff2; background-color: #f5fffa; vertical-align: top;  -moz-border-radius:10px" |
 
{| width="100%" cellpadding="2" style="vertical-align:top; background-color:#f5faff;  -moz-border-radius:10px"
{| width="100%" cellpadding="2" cellspacing="5" style="vertical-align:top; background-color:#f5faff;  -moz-border-radius:10px"
! style="background-color: #cedff2; font-size: 125%; border: 1px solid #a3b0b1; text-align: left;  padding-left: 7px;  -moz-border-radius:7px"  | <div style="float:right;">[[ภาพ:Wbar_blue.jpg]]</div> พระราชพิธี
! style="background-color: #cedff2; font-size: 125%; border: 1px solid #a3b0b1; text-align: left;  padding-left: 7px;  -moz-border-radius:7px"  | <div style="float:right;">[[ภาพ:Wbar_blue.jpg]]</div> โครงการพระราชดำริ
|-
|-
|style="color:#000"|{{พระราชพิธีเดือน}}
|style="color:#000"|{{ศูนย์ศึกษาการพัฒนา}}
|-
|-
! style="background-color: #cedff2; font-size: 125%; border: 1px solid #a3b0b1; text-align: left;  padding-left: 7px;  -moz-border-radius:7px"  | <div style="float:right;">[[ภาพ:Wbar_blue.jpg]]</div> วันนี้ในอดีต
|-
|style="color:#000"|{{วันนี้ในอดีต}}
|}
|}


|}
 
 
<div style="clear:both; margin-top:50px"></div>
{{แม่แบบ:ผู้สนับสนุน}}

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:10, 14 พฤศจิกายน 2551

พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาท์ออเบอร์น (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) รัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีเถาะ นพศก จุลศักราช ๑๒๘๙ ตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐ ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ ๓ ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระนามเดิมว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช
ในหลวงกับพระบรมราชมารดา พระเชษฐภคินีและพระเชษฐา
ในหลวงกับพระบรมราชมารดา พระเชษฐภคินีและพระเชษฐา
พระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๖๖ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๖๘ ณ เมืองไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี
อ่านต่อ...


พระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับพระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับพระราชกรณียกิจ
จากพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า ๖๐ ปี ที่แสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งมั่นจะสร้างความสุข บรรเทาความทุกข์ให้กับประชาชนบนแผ่นดินไทย โดยจะเห็นได้จากการที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่อาศัยพระบรมโพธิสมภารไปทั่วผืนแผ่นดินไทย ทรงทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในแต่ละภูมิภาค และปัญหาที่พวกเขาเหล่านั้นได้รับ จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานต่างๆ ได้เข้าไปดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพโดยจะเห็นได้จากโครงการตามพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ได้กระจายอยู่ทั่วผืนแผ่นดินไทย กว่า ๓,๐๐๐ โครงการ
ข้อมูลพระราชกรณียกิจ...
พระราชพิธี
ธันวาคม
  • พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๕ ธันวาคม
  • พระราชพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญ และพระราชพิธีถวายสักการะ พระบรมราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๐ ธันวาคม
  • รัฐพิธีวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วันที่ ๒๘ ธันวาคม
  • พิธีตรียัมพวาย-ตรีปวาย เดิมเป็นพระราชพิธี ปัจจุบันทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม

ทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ คือหลักการจัดการ เกษตรที่คิดค้นขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกรได้พึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง มี ๓ ระดับได้แก่ ขั้นต้น ครอบครัวเกษตรรายย่อยจัดสรรที่ดินและน้ำเพื่อเพาะ ปลูกเลี้ยงชีพได้พอเพียง ขั้นกลาง รวมเป็นกลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมเพิ่มผลผลิตและจำหน่วยอย่างมีพลังต่อรอง ขั้นก้าวหน้า สร้างเครือข่ายนอกชุมชนเพื่อหา แหล่งทุน >>>

เศรษฐกิจพอเพียง (sufficiency economy) เป็นแนวคิดที่แสดงถึงวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน และประเทศชาติ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ชาวไทย และเป็นส่วนสำคัญในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๔๙) และฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๔) >>>


โครงการพระราชดำริ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ : ความหมายและแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้วยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมุ่งหวังจะพัฒนาประชาชนในชนบทให้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับ “พออยู่ พอกิน” เสียก่อน จากนั้นก็จะเพิ่มระดับการพึ่งตนเองได้เป็นลำดับ แนวพระราชดำริเพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งหลายนี้อาจกล่าวได้ว่าเพื่อสนองพระราโชบายในการเสริมสร้างการเรียนรู้แก่ประชาชนในชนบท เพื่อจักได้พึ่งตนเองได้โดยแท้ กล่าวคือ
1.1 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชประสงค์ในการจัดตั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชาธิบายว่า “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” มีลักษณะดังนี้
“...เป็นศูนย์ หรือเป็นที่แห่งหนึ่งที่รวมการศึกษาเพื่อดูว่า ทำอย่างไร จะพัฒนาได้ผล...”

นอกจากนี้ได้พระราชทานพระราชดำรัสเพิ่มเติมว่า

“...ศูนย์ศึกษานี้เป็นคล้ายๆ พิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่มีชีวิตที่ใครๆ จะมาดูว่าทำอะไรกัน...”


แก้มลิง

ภาพร่างฝีพระหัตถ์โครงการแก้มลิง
ภาพร่างฝีพระหัตถ์โครงการแก้มลิง
“...ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงก็จะรีบปลอกเปลือกแล้วเอา เข้าปากเคี้ยวๆ แล้วเอาไปเก็บที่แก้ม จะกินกล้วยเข้าไปไว้ที่กระพุ้ง แก้มได้เกือบทั้งหวี โดยเอาไปเก็บไว้ที่แก้มก่อนแล้วจะนำออกมา เคี้ยวและกลืนเข้าไปภายหลัง ด้วยพฤติกรรมการนำเอากล้วยหรือ อาหารมาสะสมไว้ที่กระพุ้งแก้มก่อนการกลืนนี้ จึงเป็นพฤติกรรม ตัวอย่างที่จะนำมาใช้ในการระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง บริเวณทิศตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา...”