หน้าหลัก

จาก WIKI84
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาท์ออเบอร์น (Mount Auburn) เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) รัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts) สหรัฐอเมริกา เมื่อวันจันทร์ เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ปีเถาะ นพศก จุลศักราช ๑๒๘๙ ตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๗๐ ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ ๓ ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระนามเดิมว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช
ในหลวงกับพระบรมราชมารดา พระเชษฐภคินีและพระเชษฐา
ในหลวงกับพระบรมราชมารดา พระเชษฐภคินีและพระเชษฐา
พระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๖๖ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๖๘ ณ เมืองไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี
อ่านต่อ...


พระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับพระราชกรณียกิจ
ในหลวงกับพระราชกรณียกิจ
จากพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า ๖๐ ปี ที่แสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานที่ทรงมุ่งมั่นจะสร้างความสุข บรรเทาความทุกข์ให้กับประชาชนบนแผ่นดินไทย โดยจะเห็นได้จากการที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่อาศัยพระบรมโพธิสมภารไปทั่วผืนแผ่นดินไทย ทรงทราบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในแต่ละภูมิภาค และปัญหาที่พวกเขาเหล่านั้นได้รับ จึงได้พระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานต่างๆ ได้เข้าไปดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพโดยจะเห็นได้จากโครงการตามพระราชดำริ และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ได้กระจายอยู่ทั่วผืนแผ่นดินไทย กว่า ๓,๐๐๐ โครงการ
ข้อมูลพระราชกรณียกิจ...
พระราชพิธี
กรกฎาคม
  • พระราชพิธีอุปสมบทนาคหลวง ก่อนวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ หรือเทศกาลเข้าพรรษา
  • พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเทศกาลเข้าพรรษา ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ และ วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดเทียนพรรษาและถวายพุ่ม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดมงกุฏกษัตริยาราม และวัดเบญจมบพิตร เนื่องด้วยมีพระราชอุปัชฌา พระราชกรรมวาจารย์และพระราชอนุศาสนาจารย์เมื่อครั้งทรงพระผนวช

ทฤษฎีใหม่ หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ คือหลักการจัดการ เกษตรที่คิดค้นขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกรได้พึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง มี ๓ ระดับได้แก่ ขั้นต้น ครอบครัวเกษตรรายย่อยจัดสรรที่ดินและน้ำเพื่อเพาะ ปลูกเลี้ยงชีพได้พอเพียง ขั้นกลาง รวมเป็นกลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมเพิ่มผลผลิตและจำหน่วยอย่างมีพลังต่อรอง ขั้นก้าวหน้า สร้างเครือข่ายนอกชุมชนเพื่อหา แหล่งทุน >>>

เศรษฐกิจพอเพียง (sufficiency economy) เป็นแนวคิดที่แสดงถึงวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติตนตั้งแต่ระดับบุคคล ชุมชน และประเทศชาติ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ชาวไทย และเป็นส่วนสำคัญในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๔๙) และฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ.๒๕๕๐-๒๕๕๔) >>>


โครงการพระราชดำริ
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ : ความหมายและแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้วยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมุ่งหวังจะพัฒนาประชาชนในชนบทให้สามารถมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระดับ “พออยู่ พอกิน” เสียก่อน จากนั้นก็จะเพิ่มระดับการพึ่งตนเองได้เป็นลำดับ แนวพระราชดำริเพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งหลายนี้อาจกล่าวได้ว่าเพื่อสนองพระราโชบายในการเสริมสร้างการเรียนรู้แก่ประชาชนในชนบท เพื่อจักได้พึ่งตนเองได้โดยแท้ กล่าวคือ
1.1 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชประสงค์ในการจัดตั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชาธิบายว่า “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” มีลักษณะดังนี้
“...เป็นศูนย์ หรือเป็นที่แห่งหนึ่งที่รวมการศึกษาเพื่อดูว่า ทำอย่างไร จะพัฒนาได้ผล...”

นอกจากนี้ได้พระราชทานพระราชดำรัสเพิ่มเติมว่า

“...ศูนย์ศึกษานี้เป็นคล้ายๆ พิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่มีชีวิตที่ใครๆ จะมาดูว่าทำอะไรกัน...”


แก้มลิง

ภาพร่างฝีพระหัตถ์โครงการแก้มลิง
ภาพร่างฝีพระหัตถ์โครงการแก้มลิง
“...ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงก็จะรีบปลอกเปลือกแล้วเอา เข้าปากเคี้ยวๆ แล้วเอาไปเก็บที่แก้ม จะกินกล้วยเข้าไปไว้ที่กระพุ้ง แก้มได้เกือบทั้งหวี โดยเอาไปเก็บไว้ที่แก้มก่อนแล้วจะนำออกมา เคี้ยวและกลืนเข้าไปภายหลัง ด้วยพฤติกรรมการนำเอากล้วยหรือ อาหารมาสะสมไว้ที่กระพุ้งแก้มก่อนการกลืนนี้ จึงเป็นพฤติกรรม ตัวอย่างที่จะนำมาใช้ในการระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง บริเวณทิศตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา...”